แสงไฟสลัวในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางยิ่งทำให้บรรยากาศร้อนแรงมากขึ้น
ตาเรียวคมจ้องมองดวงตาเฉี่ยวชี้เป็นเวลาสิบนาฬิกาสิบนาทีอย่างไม่วางตา
ความร้อนแรงชวนให้จมดิ่งไปกับกามอารมณ์ทำให้อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากของตัวเองลงที่อวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย
ซูนยองตอบรับสัมผัสโดยทันที กลีบปากสองคู่เคล้าคลอกันอย่างเอื่อยช้า
ทว่าล้ำลึกชวนให้เคลิ้มฝัน
มือหนาแยกสาบเสื้อที่ถูกปลดกระดุมครบทุกเม็ดของร่างข้างใต้
ใช้ปลายนิ้วสะกิดทักทายที่ยอดอกสีอ่อน
เรียกเสียงครางอื้ออึงจากลำคอขาวผ่องได้เป็นอย่างดี
กลีบปากเรียวบางทอดถอนออกมา
ดวงตาคมไล่มองผิวกายขาวละเอียดที่ตัดกับสีเสื้อ ราวกับกลืนกินอีกฝ่ายไปแล้วทั้งตัว
ซูนยองขยับยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายต้องกลับมามองตาเขาอีกครั้ง
“อยากอยู่ข้างล่างดูบ้างไหม?” ซูนยองถามติดตลก
แต่วอนอูทำไมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจังอยู่พอตัวเลยล่ะ
“ฝันเถอะ” ตอบกลับอย่างไม่คิด
มือหนาเลื่อนต่ำไปที่ขอบกางเกงหนังสีดำสนิท ปลดกระดุมทั้งรูดซิบลงแล้วสอดมือเข้าไปใต้อันเดอร์แวร์พอดีตัวของอีกฝ่าย
สัมผัสตัวตนที่ร้อนระอุภายในนั้นให้อีกฝ่ายได้ซี๊ดปาก ในตอนนี้เองที่มือของซูนยองก็ไม่สามารถอยู่อย่างเป็นสุขได้อีกแล้ว
มือขาวเลื้อยไปตามไหล่กว้าง
ข้างหนึ่งเลื้อยขึ้นสูงไปจิกทึ้งกลุ่มผมของอีกฝ่าย อีกมือหนึ่งเลื้อยลงต่ำ
ปลดกระดุมตรงสาบเสื้อให้มันแยกออกจากกัน มองแผงอกที่มีกล้ามเนื้อแต่พอดี
ไม่ต่างกันกับเขาที่เพิ่งจะมีมันเมื่อไม่นานมานี้
ซูนยองยกสะโพกขึ้น เมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งกางเกงให้หลุดออกจากร่างกายของตน
ตามด้วยอันเดอร์แวร์พอดีตัว โดยที่เขาก็ถอดเสื้อของอีกฝ่ายออกบ้าง แสงไฟอมส้มที่ส่องกระทบผิวกายของคนด้านบนนั้นทำให้ซูนยองนึกชื่นชมมันอยู่ในใจ
ยิ่งสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกมาในยามนี้ด้วยแล้ว
โคตรอีโรติค
วอนอูโน้มหน้าลงไปซุกที่ซอกคอขาว
กดจูบสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่าย เมินกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ไม่คุ้นชินไป เพราะเขาไม่ได้มีสิทธิ์ในคิดในเรื่องนี้
ริมฝีปากพรมจูบไปตามเนินเนื้อขาวเนียนเรียกเสียงครางอย่างพอใจจากอีกฝ่าย
มือที่กอบกุมตัวตนของซูนยองเริ่มขยับขึ้นลงให้มันมีการตอบสนอง
พอกันกับที่ซูนยองได้ส่งมือมาทักทายตัวตนของเขาที่อยู่ภายใต้กางเกงจนมันเริ่มจะแข็งชัน
กลีบปากเคลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ
ก่อนจะหยุดแวะที่ยอดอกสีอ่อน ดูดดุนขบกัดจนอกแน่นเนื้อแอ่นเข้าหาเรียวลิ้นของเขา
ดูดดื่มข้างหนึ่งจนพอใจก่อนจะย้ายไปอีกข้าง
ปฏิบัติกับมันไม่ต่างกันจนรู้สึกถึงแรงทึ้งบนศีรษะตัวเอง วอนอูลอบยิ้ม
ก่อนจะย้ายริมฝีปากลงในจุดที่ต่ำลง เรียวลิ้นลากผ่านหน้าท้องเนียน แอ่งสะดือ
จนมาถึงต้นขาขาว
“อ..อือ..วอนอู..”
“อืม...”
เสียงครางแผ่วดังสลับกันระหว่างเขาสองคน
นิ้วเรียวถูกส่งของปากของตัวเอง ดูดดุนมันจนเปียกชุ่ม
ก่อนจะส่งมันไปทักทายที่ช่องทางด้านหลัง ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับปากทาง
ตัวตนของซูนยองก็ถูกโอบอุ้มด้วยโพรงปากร้อนของวอนอูโดยทันที
“อื้ออ..อะ...อา....”
เสียงครางแหบพร่าหลุดจากกลีบปากที่บวมตุ่ย สองขาเรียวแยกออกจากกันอย่างเผลอไผล
เปิดทางให้ร่างสูงได้แนบชิดกับร่างกายของตัวเองมากขึ้น
นิ้วเรียวยาวสอดเข้าช่องทางอย่างเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไป
กลีบปากที่ครอบครองตัวตนของอีกฝ่ายขยับขึ้นลงรุนแรงขึ้นเพื่อดึงความสนใจ
หูได้ยินเสียงครางอย่างทรมานของซูนยอง
ร่างขาวบิดเร่าในยามที่นิ้วเรียวสามารถสอดเข้าไปได้จนมิด แถมนิ้วเรียวอีกข้างของร่างสูงได้ส่งมาบดบี้ที่ยอดอกของเขาอย่างไม่ปราณี
“อ๊ะ!....อื้อ....อือ...” ในความทรมานที่มีแต่ความพึงใจของซูนยองทำให้วอนอูพอใจเช่นกัน
เพราะเขาไม่มีวันยอมที่จะได้ยินอีกฝ่ายด่าเขาว่า ห่วย อย่างแน่นอน
“แน่นดี เหมือนได้เปิดซิงนายทุกรอบเลยนะ”
เสียงทุ้มต่ำพูดประโยคลามกอย่างหน้าตาเฉย
หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากตัวตนของอีกคน
มุมปากยกยิ้มเมื่อเรียวนิ้วของเขาถูกช่องทางอีกฝ่ายรัดแน่น
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามเบิกทางให้มันกว้างขึ้นโดยส่งนิ้วที่สองและที่สามตามเข้าไป
ความร้อนเหมือนมากองอยู่ที่หน้าของซูนยอง
ไม่รู้ว่าเพราะกามอารมณ์ที่ประทุในร่างกายของเขาในตอนนี้หรือเพราะคำพูดคำจาของอีกฝ่ายกันแน่
เพราะตอนนี้สติเขาชักจะเริ่มขาวโพลนไปหมดแล้ว
ความสนใจหยุดอยู่ที่ความเสียวซ่านที่ทำให้เขาครางไม่ได้ศัพท์มากขึ้นทุกที
“อะ...อา....ซะที...เถอะน่า” ซูนยองครางหอบ เอ่ยบอกอีกฝ่ายให้หยุดลีลาเสียที
ในเมื่อตอนนี้แค่นิ้วมันชักจะไม่พอเสียแล้ว
วอนอูไม่ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่เอื้อมมือไปล้วงซองฟอยล์ที่อยู่กระเป๋าหลังออกมาคาบไว้ที่ปาก
มือข้างเดิมขยับรั้งรูดตัวตนของตัวเองให้เข้าที่ ฟันคมงับเข้าที่รอยประที่ขอบซอง ใช้มือฉีกจนซองเปิดออก
เขาดึงห่วงทรงกลมไปครอบที่ส่วนปลายมน
รูดห่วงเข้าหาตัวจนสุดทางให้รู้สึกว่าตัวตนถูกครอบคลุม
นิ้วเรียวทั้งสามถูกถอนออกจากช่องทางจนซูนยองรู้สึกวูบโหวง
มือหนาดึงขอบกางเกงตัวเองให้หล่นไปอยู่บริเวณหน้าขา
จับอีกฝ่ายพลิกนอนคว่ำ มือข้างหนึ่งประคองตัวตนของตัวเองไว้จนส่วนปลายสัมผัสกับก้อนเนื้อกลมกลึง
มืออีกข้างแหวกทางจนเผยช่องทางที่เต้นตุบ วอนอูกดส่วนหัวของตัวเองเข้าช่องทาง
เพียงแค่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงซี๊ดปากจากซูนยอง
ความคับแน่นร้อนผ่าวโอบอุ้มตัวตนของวอนอูจนเจ้าตัวต้องกัดฟัน
หลังจากที่แทรกกายเข้ามาได้จนสุด ความปวดหนึบถามหาจนเขาต้องขยับกายเชื่องช้าเป็นการผ่อนคลาย
เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ มือหนาสองข้างล็อกเข้าที่เอวคอด จับยึดเอาไว้เช่นนั้น
ก่อนจะสวนกายเข้าหาในจังหวะเนิบช้าและเร่งเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงครางกับช่องทางที่ตอดรัดจากร่างขาวตรงหน้าทำให้เขาสติขาดผึง
“อื้ม...อือ...ซี๊ดด...ว...วอน...อู....”
“อืม...แน่น...เป็นบ้า...”
อดไม่ได้ที่จะฟาดฝ่ามือลงที่เนินเนื้อขาวกลม
ยามที่มันขึ้นรอยแดงจากฝีมือของเขาเอง วอนอูยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น มือบีบเฟ้นสะโพกขาวจนขึ้นรอยช้ำ
แรงกระแทกยังคงรุนแรงไม่มีตกจนร่างขาวข้างใต้หัวสั่นหัวคลอน จนสุดท้าย
สองมือที่เคยยันพื้นก็ไถลลง ใบหน้าเรื่อแดงแนบซบกับท่อนแขนของตนพลางครางอู้อี้อยู่ตรงนั้น
มือหนาเลื่อนมือลูบไปตามไขสันหลังชื้นเหงื่อ
เรียกเสียงครางจากร่างขาวได้ดังขึ้นอีก วอนอูหยุดมือตัวเองที่ไหล่ลาด โน้มตัวซ้อนหลังซูนยอง
จมูกโด่งสูดดมไปทั่วหลังคอผสานกับแรงอารมณ์ที่ยังคงรุนแรงและไม่มีท่าทีจะตกลง
“อันที่จริง...เป็นอย่างที่นายว่า...อืม..ก็ดี..”
ปากเรียวบางพูดเสียงพร่าที่ข้างหูนิ่ม ประโยคกำกวมทำให้ซูนยองขมวดคิ้ว
ทั้งงงทั้งเสียวปะปนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มีสติที่จะถามอีกฝ่ายกลับ
กามอารมณ์พุ่งสูงจนหูตาพร่าเบลอ ก่อนมันจะดับมืดเมื่ออีกฝ่ายหยุดขยับกายกลางคัน
“อื้อ!...” ซูนยองครางอย่างขัดใจ
คิ้วเรียวขมวดฉับ ก่อนที่ท่อนแขนแข็งแรงจะกอดรัดรอบเอวคอดแน่น
ฉุดรั้งให้แผ่นหลังขาวเนียนแนบแผ่นอกของตัวเอง ขยับกายลงนั่งกับพื้นไม้เย็นชืด
โดยที่มีซูนยองนั่งทับตัก ตัวตนที่แทรกลึกขึ้นทำให้อีกฝ่ายกัดปากแน่น
สีหน้าเร้าอารมณ์ที่ดวงตาเรียวคมมองผ่านกระจกส่งผลให้สะโพกสอบกระทุ้งกายขึ้นให้ซูนยองครางเฮือก
“ฉันอยู่ข้างล่างให้นายแล้วนะ” วอนอูพูด
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หาดูได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคม
ดวงตาเรียวชี้จ้องเพื่อนสนิทของตนผ่านกระจก เม้มปากจนเป็นเส้นตรง เมื่อการอยู่ข้างล่างของวอนอูมันห่างไกลจากความหมายของเขาไปมากโข
และดูก็รับรู้ได้เลยว่า
วอนอูตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น
“เอาสิ ลองดู” เสียงทุ้มต่ำดังที่ข้างหู
ก่อนที่ฟันคมจะงับมันแผ่วเบา ฝ่ามือหนาเลื่อนมากอบกุมตัวตนของคนบนตัก
ขยับมันขึ้นลงจนเสียงหอบครางที่หายไปชั่วครู่กลับมาอีกครั้ง
“เร็วสิ...” วอนอูยังไม่เลิกแหย่พอกันกับความร้อนจากฝ่ามือที่ยังให้ความอบอุ่นกับตัวตนของซูนยอง
ฟันคมงับกลีบปากบวมช้ำของตัวเองแน่นอย่างชั่งใจ
ให้ตายเถอะ ก็ไม่เคยนี่หว่า
แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาได้มีเวลาคิดนานมากนัก
เมื่อมือหนาเร่งจังหวะรั้งรูดตัวตนที่แข็งชัน
ความขาวโพลนกัดกินสติของซูนยองให้พร่าเลือนอีกครั้ง ช่องทางบีบรัดแน่นกว่าปกติเป็นสัญญาณว่าซูนยองใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที
วอนอูยกยิ้มร้าย
ก่อนที่ปลายนิ้วหัวแม่โป้งจะเลื่อนไปกดที่ส่วนปลายของความแข็งชันของคนบนตัก
ซูนยองหอบขาดห้วง ความทรมานฉายชัดบนใบหน้าและวอนอูกำลังบีบให้เขาทำอย่างไม่มีทางเลือก
ดวงตาเรียวชี้มองผ่านกระจกไปถึงคนที่นั่งซ้อนหลังอย่างค่อนขอด
ผิดกับการกระทำที่เรียวขาขาวอ้ากว้าง สะโพกมนยกขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวลงเนิบช้า
เป็นอยู่เช่นนั้นได้เพียงชั่วครู่
เมื่อปลายหยักที่มีพลาสติกกั้นกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง
สติของซูนยองถูกพรากไปอีกครั้งอย่างสมบูรณ์
“อะ...อ๊า...อื้อ....อา....!”
เสียงทุ้มหวานครางไม่ขาดปาก เสียงหน้าขากระทบสะโพกมนดังพั่บอย่างจับจังหวะไม่ได้
เมื่อซูนยองโถมกายลงมาอย่างบ้าคลั่ง กายขาวเอนเอียงอย่างสูญเสียสมดุล
จนมือหนาต้องยื่นมือออกไปประสานนิ้วกับร่างบนตัก
พยุงร่างกายของเพื่อนสนิทไม่ให้ล้มลง
“อืมดี...ดีมาก...ซูนยอง...” วอนอูครางต่ำ
กดจูบเข้าที่ซอกคอขาวนุ่ม
ไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เพียงแต่ต้องการระบายความกระสันของตัวเองก็เท่านั้น
สะโพกสอบเด้งสวนในจังหวะที่สะโพกมนกระแทกกายลงมา
ส่วนปลายภายในช่องทางร้อนกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง ซูนยองครางลั่น มือขาวอีกข้างที่เคยค้ำยันพื้นเอาไว้ยกขึ้นมาปัดมือหนาที่ปิดกั้นการปลดปล่อยของตัวเองทิ้ง
ซูนยองทนไม่ไหวอีกแล้ว
ช่องทางร้อนบีบตัวแน่น สะโพกมนบดกายกับตัวตนที่แข็งชันภายใน
ร่อนสะโพกถี่รัว ความเสียวกระสันตีรวนไปทั่วร่าง วอนอูเผลอฝังริมฝีปากที่ต้นแขนขาว
ขบกัดจนขึ้นรอยในจังหวะที่ซูนยองครางยาวเป็นครั้งสุดท้าย
ความเปียกชื้นที่ฝ่ามือหนาและความเปียกแฉะในพลาสติกที่ห่อหุ้มตัวตนของวอนอูเกิดขึ้นพร้อม
ๆ กันในวินาทีถัดมา
“แฮ่ก/แฮ่ก..”
และมีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังสลับกันระหว่างคนสองคนในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลาง
*มีต่อที่เด็กดีนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น