วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

(CUT) FWB - WONSOON




แสงไฟสลัวในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางยิ่งทำให้บรรยากาศร้อนแรงมากขึ้น ตาเรียวคมจ้องมองดวงตาเฉี่ยวชี้เป็นเวลาสิบนาฬิกาสิบนาทีอย่างไม่วางตา ความร้อนแรงชวนให้จมดิ่งไปกับกามอารมณ์ทำให้อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากของตัวเองลงที่อวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย ซูนยองตอบรับสัมผัสโดยทันที กลีบปากสองคู่เคล้าคลอกันอย่างเอื่อยช้า ทว่าล้ำลึกชวนให้เคลิ้มฝัน มือหนาแยกสาบเสื้อที่ถูกปลดกระดุมครบทุกเม็ดของร่างข้างใต้ ใช้ปลายนิ้วสะกิดทักทายที่ยอดอกสีอ่อน เรียกเสียงครางอื้ออึงจากลำคอขาวผ่องได้เป็นอย่างดี

กลีบปากเรียวบางทอดถอนออกมา ดวงตาคมไล่มองผิวกายขาวละเอียดที่ตัดกับสีเสื้อ ราวกับกลืนกินอีกฝ่ายไปแล้วทั้งตัว ซูนยองขยับยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายต้องกลับมามองตาเขาอีกครั้ง

“อยากอยู่ข้างล่างดูบ้างไหม?” ซูนยองถามติดตลก แต่วอนอูทำไมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจังอยู่พอตัวเลยล่ะ

“ฝันเถอะ” ตอบกลับอย่างไม่คิด มือหนาเลื่อนต่ำไปที่ขอบกางเกงหนังสีดำสนิท ปลดกระดุมทั้งรูดซิบลงแล้วสอดมือเข้าไปใต้อันเดอร์แวร์พอดีตัวของอีกฝ่าย สัมผัสตัวตนที่ร้อนระอุภายในนั้นให้อีกฝ่ายได้ซี๊ดปาก ในตอนนี้เองที่มือของซูนยองก็ไม่สามารถอยู่อย่างเป็นสุขได้อีกแล้ว

มือขาวเลื้อยไปตามไหล่กว้าง ข้างหนึ่งเลื้อยขึ้นสูงไปจิกทึ้งกลุ่มผมของอีกฝ่าย อีกมือหนึ่งเลื้อยลงต่ำ ปลดกระดุมตรงสาบเสื้อให้มันแยกออกจากกัน มองแผงอกที่มีกล้ามเนื้อแต่พอดี ไม่ต่างกันกับเขาที่เพิ่งจะมีมันเมื่อไม่นานมานี้

ซูนยองยกสะโพกขึ้น เมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งกางเกงให้หลุดออกจากร่างกายของตน ตามด้วยอันเดอร์แวร์พอดีตัว โดยที่เขาก็ถอดเสื้อของอีกฝ่ายออกบ้าง แสงไฟอมส้มที่ส่องกระทบผิวกายของคนด้านบนนั้นทำให้ซูนยองนึกชื่นชมมันอยู่ในใจ ยิ่งสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกมาในยามนี้ด้วยแล้ว


โคตรอีโรติค


วอนอูโน้มหน้าลงไปซุกที่ซอกคอขาว กดจูบสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่าย เมินกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ไม่คุ้นชินไป เพราะเขาไม่ได้มีสิทธิ์ในคิดในเรื่องนี้ ริมฝีปากพรมจูบไปตามเนินเนื้อขาวเนียนเรียกเสียงครางอย่างพอใจจากอีกฝ่าย มือที่กอบกุมตัวตนของซูนยองเริ่มขยับขึ้นลงให้มันมีการตอบสนอง พอกันกับที่ซูนยองได้ส่งมือมาทักทายตัวตนของเขาที่อยู่ภายใต้กางเกงจนมันเริ่มจะแข็งชัน

กลีบปากเคลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดแวะที่ยอดอกสีอ่อน ดูดดุนขบกัดจนอกแน่นเนื้อแอ่นเข้าหาเรียวลิ้นของเขา ดูดดื่มข้างหนึ่งจนพอใจก่อนจะย้ายไปอีกข้าง ปฏิบัติกับมันไม่ต่างกันจนรู้สึกถึงแรงทึ้งบนศีรษะตัวเอง วอนอูลอบยิ้ม ก่อนจะย้ายริมฝีปากลงในจุดที่ต่ำลง เรียวลิ้นลากผ่านหน้าท้องเนียน แอ่งสะดือ จนมาถึงต้นขาขาว

“อ..อือ..วอนอู..”

“อืม...”

เสียงครางแผ่วดังสลับกันระหว่างเขาสองคน นิ้วเรียวถูกส่งของปากของตัวเอง ดูดดุนมันจนเปียกชุ่ม ก่อนจะส่งมันไปทักทายที่ช่องทางด้านหลัง ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับปากทาง ตัวตนของซูนยองก็ถูกโอบอุ้มด้วยโพรงปากร้อนของวอนอูโดยทันที

“อื้ออ..อะ...อา....” เสียงครางแหบพร่าหลุดจากกลีบปากที่บวมตุ่ย สองขาเรียวแยกออกจากกันอย่างเผลอไผล เปิดทางให้ร่างสูงได้แนบชิดกับร่างกายของตัวเองมากขึ้น

นิ้วเรียวยาวสอดเข้าช่องทางอย่างเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไป กลีบปากที่ครอบครองตัวตนของอีกฝ่ายขยับขึ้นลงรุนแรงขึ้นเพื่อดึงความสนใจ หูได้ยินเสียงครางอย่างทรมานของซูนยอง ร่างขาวบิดเร่าในยามที่นิ้วเรียวสามารถสอดเข้าไปได้จนมิด แถมนิ้วเรียวอีกข้างของร่างสูงได้ส่งมาบดบี้ที่ยอดอกของเขาอย่างไม่ปราณี

“อ๊ะ!....อื้อ....อือ...” ในความทรมานที่มีแต่ความพึงใจของซูนยองทำให้วอนอูพอใจเช่นกัน เพราะเขาไม่มีวันยอมที่จะได้ยินอีกฝ่ายด่าเขาว่า ห่วย อย่างแน่นอน

“แน่นดี เหมือนได้เปิดซิงนายทุกรอบเลยนะ” เสียงทุ้มต่ำพูดประโยคลามกอย่างหน้าตาเฉย หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากตัวตนของอีกคน มุมปากยกยิ้มเมื่อเรียวนิ้วของเขาถูกช่องทางอีกฝ่ายรัดแน่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามเบิกทางให้มันกว้างขึ้นโดยส่งนิ้วที่สองและที่สามตามเข้าไป

ความร้อนเหมือนมากองอยู่ที่หน้าของซูนยอง ไม่รู้ว่าเพราะกามอารมณ์ที่ประทุในร่างกายของเขาในตอนนี้หรือเพราะคำพูดคำจาของอีกฝ่ายกันแน่ เพราะตอนนี้สติเขาชักจะเริ่มขาวโพลนไปหมดแล้ว ความสนใจหยุดอยู่ที่ความเสียวซ่านที่ทำให้เขาครางไม่ได้ศัพท์มากขึ้นทุกที

“อะ...อา....ซะที...เถอะน่า” ซูนยองครางหอบ เอ่ยบอกอีกฝ่ายให้หยุดลีลาเสียที ในเมื่อตอนนี้แค่นิ้วมันชักจะไม่พอเสียแล้ว

วอนอูไม่ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่เอื้อมมือไปล้วงซองฟอยล์ที่อยู่กระเป๋าหลังออกมาคาบไว้ที่ปาก มือข้างเดิมขยับรั้งรูดตัวตนของตัวเองให้เข้าที่ ฟันคมงับเข้าที่รอยประที่ขอบซอง ใช้มือฉีกจนซองเปิดออก เขาดึงห่วงทรงกลมไปครอบที่ส่วนปลายมน รูดห่วงเข้าหาตัวจนสุดทางให้รู้สึกว่าตัวตนถูกครอบคลุม นิ้วเรียวทั้งสามถูกถอนออกจากช่องทางจนซูนยองรู้สึกวูบโหวง

มือหนาดึงขอบกางเกงตัวเองให้หล่นไปอยู่บริเวณหน้าขา จับอีกฝ่ายพลิกนอนคว่ำ มือข้างหนึ่งประคองตัวตนของตัวเองไว้จนส่วนปลายสัมผัสกับก้อนเนื้อกลมกลึง มืออีกข้างแหวกทางจนเผยช่องทางที่เต้นตุบ วอนอูกดส่วนหัวของตัวเองเข้าช่องทาง เพียงแค่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงซี๊ดปากจากซูนยอง

ความคับแน่นร้อนผ่าวโอบอุ้มตัวตนของวอนอูจนเจ้าตัวต้องกัดฟัน หลังจากที่แทรกกายเข้ามาได้จนสุด ความปวดหนึบถามหาจนเขาต้องขยับกายเชื่องช้าเป็นการผ่อนคลาย เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ มือหนาสองข้างล็อกเข้าที่เอวคอด จับยึดเอาไว้เช่นนั้น ก่อนจะสวนกายเข้าหาในจังหวะเนิบช้าและเร่งเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงครางกับช่องทางที่ตอดรัดจากร่างขาวตรงหน้าทำให้เขาสติขาดผึง

“อื้ม...อือ...ซี๊ดด...ว...วอน...อู....”

“อืม...แน่น...เป็นบ้า...”

อดไม่ได้ที่จะฟาดฝ่ามือลงที่เนินเนื้อขาวกลม ยามที่มันขึ้นรอยแดงจากฝีมือของเขาเอง วอนอูยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น มือบีบเฟ้นสะโพกขาวจนขึ้นรอยช้ำ แรงกระแทกยังคงรุนแรงไม่มีตกจนร่างขาวข้างใต้หัวสั่นหัวคลอน จนสุดท้าย สองมือที่เคยยันพื้นก็ไถลลง ใบหน้าเรื่อแดงแนบซบกับท่อนแขนของตนพลางครางอู้อี้อยู่ตรงนั้น

มือหนาเลื่อนมือลูบไปตามไขสันหลังชื้นเหงื่อ เรียกเสียงครางจากร่างขาวได้ดังขึ้นอีก วอนอูหยุดมือตัวเองที่ไหล่ลาด โน้มตัวซ้อนหลังซูนยอง จมูกโด่งสูดดมไปทั่วหลังคอผสานกับแรงอารมณ์ที่ยังคงรุนแรงและไม่มีท่าทีจะตกลง

“อันที่จริง...เป็นอย่างที่นายว่า...อืม..ก็ดี..” ปากเรียวบางพูดเสียงพร่าที่ข้างหูนิ่ม ประโยคกำกวมทำให้ซูนยองขมวดคิ้ว ทั้งงงทั้งเสียวปะปนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มีสติที่จะถามอีกฝ่ายกลับ กามอารมณ์พุ่งสูงจนหูตาพร่าเบลอ ก่อนมันจะดับมืดเมื่ออีกฝ่ายหยุดขยับกายกลางคัน

“อื้อ!...” ซูนยองครางอย่างขัดใจ คิ้วเรียวขมวดฉับ ก่อนที่ท่อนแขนแข็งแรงจะกอดรัดรอบเอวคอดแน่น ฉุดรั้งให้แผ่นหลังขาวเนียนแนบแผ่นอกของตัวเอง ขยับกายลงนั่งกับพื้นไม้เย็นชืด โดยที่มีซูนยองนั่งทับตัก ตัวตนที่แทรกลึกขึ้นทำให้อีกฝ่ายกัดปากแน่น สีหน้าเร้าอารมณ์ที่ดวงตาเรียวคมมองผ่านกระจกส่งผลให้สะโพกสอบกระทุ้งกายขึ้นให้ซูนยองครางเฮือก

“ฉันอยู่ข้างล่างให้นายแล้วนะ” วอนอูพูด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หาดูได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวชี้จ้องเพื่อนสนิทของตนผ่านกระจก เม้มปากจนเป็นเส้นตรง เมื่อการอยู่ข้างล่างของวอนอูมันห่างไกลจากความหมายของเขาไปมากโข และดูก็รับรู้ได้เลยว่า


วอนอูตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น


“เอาสิ ลองดู” เสียงทุ้มต่ำดังที่ข้างหู ก่อนที่ฟันคมจะงับมันแผ่วเบา ฝ่ามือหนาเลื่อนมากอบกุมตัวตนของคนบนตัก ขยับมันขึ้นลงจนเสียงหอบครางที่หายไปชั่วครู่กลับมาอีกครั้ง

“เร็วสิ...” วอนอูยังไม่เลิกแหย่พอกันกับความร้อนจากฝ่ามือที่ยังให้ความอบอุ่นกับตัวตนของซูนยอง ฟันคมงับกลีบปากบวมช้ำของตัวเองแน่นอย่างชั่งใจ


ให้ตายเถอะ ก็ไม่เคยนี่หว่า


แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาได้มีเวลาคิดนานมากนัก เมื่อมือหนาเร่งจังหวะรั้งรูดตัวตนที่แข็งชัน ความขาวโพลนกัดกินสติของซูนยองให้พร่าเลือนอีกครั้ง ช่องทางบีบรัดแน่นกว่าปกติเป็นสัญญาณว่าซูนยองใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที วอนอูยกยิ้มร้าย ก่อนที่ปลายนิ้วหัวแม่โป้งจะเลื่อนไปกดที่ส่วนปลายของความแข็งชันของคนบนตัก ซูนยองหอบขาดห้วง ความทรมานฉายชัดบนใบหน้าและวอนอูกำลังบีบให้เขาทำอย่างไม่มีทางเลือก

ดวงตาเรียวชี้มองผ่านกระจกไปถึงคนที่นั่งซ้อนหลังอย่างค่อนขอด ผิดกับการกระทำที่เรียวขาขาวอ้ากว้าง สะโพกมนยกขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวลงเนิบช้า เป็นอยู่เช่นนั้นได้เพียงชั่วครู่ เมื่อปลายหยักที่มีพลาสติกกั้นกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง สติของซูนยองถูกพรากไปอีกครั้งอย่างสมบูรณ์

“อะ...อ๊า...อื้อ....อา....!” เสียงทุ้มหวานครางไม่ขาดปาก เสียงหน้าขากระทบสะโพกมนดังพั่บอย่างจับจังหวะไม่ได้ เมื่อซูนยองโถมกายลงมาอย่างบ้าคลั่ง กายขาวเอนเอียงอย่างสูญเสียสมดุล จนมือหนาต้องยื่นมือออกไปประสานนิ้วกับร่างบนตัก พยุงร่างกายของเพื่อนสนิทไม่ให้ล้มลง

“อืมดี...ดีมาก...ซูนยอง...” วอนอูครางต่ำ กดจูบเข้าที่ซอกคอขาวนุ่ม ไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เพียงแต่ต้องการระบายความกระสันของตัวเองก็เท่านั้น

สะโพกสอบเด้งสวนในจังหวะที่สะโพกมนกระแทกกายลงมา ส่วนปลายภายในช่องทางร้อนกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง ซูนยองครางลั่น มือขาวอีกข้างที่เคยค้ำยันพื้นเอาไว้ยกขึ้นมาปัดมือหนาที่ปิดกั้นการปลดปล่อยของตัวเองทิ้ง


ซูนยองทนไม่ไหวอีกแล้ว


ช่องทางร้อนบีบตัวแน่น สะโพกมนบดกายกับตัวตนที่แข็งชันภายใน ร่อนสะโพกถี่รัว ความเสียวกระสันตีรวนไปทั่วร่าง วอนอูเผลอฝังริมฝีปากที่ต้นแขนขาว ขบกัดจนขึ้นรอยในจังหวะที่ซูนยองครางยาวเป็นครั้งสุดท้าย ความเปียกชื้นที่ฝ่ามือหนาและความเปียกแฉะในพลาสติกที่ห่อหุ้มตัวตนของวอนอูเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในวินาทีถัดมา

“แฮ่ก/แฮ่ก..”



และมีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังสลับกันระหว่างคนสองคนในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลาง




*มีต่อที่เด็กดีนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น