วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

(CUT) POOL SIDE - SOONHOON


CUT

                การเล่นน้ำของจีฮุนนั้นไม่ใช่การแข่งว่ายน้ำหรือสาดน้ำใส่กันใสๆเหมือนเด็กน้อยเล่นกัน ซูนยองนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายครึ้มอกครึ้มใจอะไรวันนี้ถึงรุกเขาแรงขนาดนี้ ร่างสองร่างที่ดำดิ่งอยู่ใต้ผืนน้ำ ริมฝีปากประกบกันแลกลมหายใจ ตาคมเฉี่ยวลืมตามองใบหน้ากึ่งหวานในระยะใกล้โดยที่ร่างเล็กนั้นลืมตามองอยู่ก่อนแล้ว มือทั้งสองสอดประสานกันแนบแน่นและปล่อยกายปล่อยใจไปกับรสจูบ ไม่มีการพยายามทรงตัวใต้น้ำแต่อย่างใด ทั้งสองปล่อยให้ร่างกายลอยตัวจนขึ้นมาเหนือน้ำ กลีบปากผละออกจากกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเป็นซูนยองที่ดันจีฮุนชิดขอบสระ สองแขนกักขังร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดแล้วกดจูบลงไปอีกหน ริมฝีปากสองคู่บดคลึงกันและกันจนบวมช้ำแต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสนใจของคนทั้งสอง
  
              จีฮุนอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเคลิ้มผลักอกแกร่งนั้นออกก่อนจะว่ายหนีไปที่ขั้นบันได ซูนยองมองตาม ใจคิดจะตามไปอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจกระทันหัน เพราะร่างเล็กนั้นนึกพิเรนทร์ถอดกางเกงว่ายน้ำแล้วเขวี้ยงไปกองไว้กับเสื้อที่ขอบสระ ร่างโปร่งแทบติดสปีดว่ายสี่คูณร้อยเมตรเพื่อมาบดบังร่างกายเปลือยเปล่าของอีกคน

                “ทำบ้าอะไรน่ะฮะ!?” เสียงทุ้มขึ้นเสียง คนตัวเล็กยิ้มเผล่ก่อนจะยกเข่าขึ้นมาสีที่กลางลำตัวของอีกคน

                “ดึกแล้วหน่า ไม่มีใครซะหน่อย”

                “นี่มันสระกลางแจ้งนะ”

                “เลิกบ่นได้ไหมอ่ะ ถ้าร้องเพลงเก่งเหมือนบ่นมันคงดีมากเลยนะคุณควอน” ปากเล็กๆขยับบ่นไปตามเรื่องช่างขัดกับช่วงล่างที่สีกลางลำตัวร่างโปร่งจนเริ่มโป่งนูน ซูนยองถอนหายใจอย่างยอมแพ้


                เออ งั้นเขาก็ขอไม่สนสถานที่แล้วก็แล้วกัน


            ใบหน้าหล่อตี๋โน้มลงไปซุกที่ซอกคอขาวขบเม้มแต่พองามเพื่อไม่ให้ขึ้นรอย ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วจนมาถึงเนินไหล่ มืออยู่ไม่สุขเมื่อมันเอื้อมไปคว้าตัวตนของร่างเล็กขึ้นมารั้งรูดในจังหวะเดียวกันที่มือเล็กสอดล้วงเข้ามาใต้กางเกง สีหน้ากระเง้ากระงอดจากคนบ่นหายไปพร้อมกับความวาบหวามที่ฉายชัดบ่นใบหน้าหล่อหวาน เสียงร้องดังครางเครือไปกับสัมผัสร้อนใต้ผิวน้ำ

                “ซูน...อื้อ..” เสียงทุ้มหวานครางเมื่อมือหนาค่อยๆลูบไปตามต้นขาด้านในจนปลายนิ้วไปแตะที่ช่องทางสีอ่อน มืออีกข้างยกขึ้นมาบดคลึงจุดอ่อนไหวเล็กๆบนอกสร้างความกระสันให้ร่างบางไปพร้อมๆกับนิ้วแกร่งที่ไล้วนที่ปากทางค่อยๆกดนิ้วเข้าไปจนร่างเล็กหายใจขาดห้วง

                “อ่ะอื้อ..ฮะ..ซูน” สีหน้าเร้าอารมณ์มองร่างโปร่งส่งผลให้ซูนยองหายใจติดขัด แต่เบื้องล่างไม่เป็นเช่นนั้นเพราะน้ำในสระช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้น นิ้วแกร่งขยับเข้าออกจนช่องทางค่อยๆปรับสภาพให้คุ้นชินจนใส่นิ้วเข้าไปได้ครบสามนิ้ว ร่างโปร่งกระแทกนิ้วเข้าออกสลับหมุนควงให้สะโพกอวบส่ายร่อนอย่างเสียวซ่าน กายขาวเริ่มแดงกล่ำเพราะแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ แกนกายเล็กสั่นระริกจนน้ำเมือกใสปริ่มออกมาจากส่วนปลายและในจังหวะนั้นเองที่นิ้วแกร่งทั้งถูกดึงออกไป ตาเรียวเล็กมองค้อนอย่างไม่พอใจทำให้รอยยิ้มร้ายจากร่างโปร่งกลับมาอีกครั้ง

                “ไหนเด็กน้อยอ้อนฉันหน่อยซิ” เสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้า

                “.....”

                “เหมือนที่ห้องอัดไง” แล้วยักคิ้วให้อย่างกวนบาทา จีฮุนนิ่วหน้าอย่างขัดใจและผลักอกแกร่งออก ร่างบางผุดลุกออกจากสระไปนั่งที่ปลายเตียงอาบแดด รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อหวาน ซึ่งดูแล้วศึกครั้งนี้ซูนยองจะไม่ชนะอย่างแน่นอน

                ดวงตาเรียวรีจ้องร่างโปร่งที่ยังคงอยู่ริมขอบสระอย่างมีความหมาย มือเล็กลูบไปตามหน้าขาที่แยกออกจากกันจนเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดเจน นิ้วเรียวไล้มาที่ปากทางสีอ่อนก่อนจะส่งนิ้วเข้าไปพรวดเดียวถึงสามนิ้ว ฟันคมขบริมฝีปากระบายความปวดตุบก่อนจะขยับนิ้วเข้าออกต่อหน้าสายตาคมเฉี่ยวที่มองมา

                “อื้อ..อ๊ะ..ซูน..”

                “....”

                “อา..อ่ะ...ดี..ดีจัง” เสียงทุ้มหวานครางพร่า สายตาร้อนแรงจ้องมองมาจนร่างโปร่งหมดความอดทน ซูนยองเดินขึ้นฝั่งและไปหยุดยืนตรงหน้าร่างเล็ก มือแกร่งเชยคางมนขึ้นแล้วโน้มตัวลงไปประกบจูบดูดดื่มแล้วผละออก

                “ฉันคงต้องขอร้องนายแล้วล่ะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากแล้วผละออกไป จีฮุนยกยิ้มก่อนจะนั่งหลังตรงให้ใบหน้าอยู่เสมอกับตัวตนของอีกฝ่าย มือเล็กเกี่ยวขอบกางเกงทั้งนอกและในลง ลูกรักของอีกคนผงกหัวรับทันทีเมื่อได้ออกมาสูดอากาศด้านนอก รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นและหายไปเมื่อกลีบปากนุ่มโอบอุ้มท่อนเอ็นแข็งชันเข้าเต็มปาก ฟันคมครูดไปตามแนวยาวสลับตวัดลิ้นโลมเลียจนร่างโปร่งซี๊ดปาก มือแกร่งวางบนศีรษะทุยลูบไปมาราวกับชมเชย แรงรั้งรูดแรงขึ้นเรื่อยๆไปตามเสียงทุ้มที่เรียกชื่อตน จนเขาคิดว่ามันน่าจะพร้อมเต็มที่แล้วจึงถอนปากออกมา กายเล็กถดกลับไปนั่งที่กลางเตียงแล้วพลิกตัวหันหลังให้ในท่าคลานเข่า สะโพกกลมกลึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้าพร้อมกับมือเล็กที่แหวกแก้มก้นจนเห็นช่องทางที่ขมิบเรียกร้องอะไรที่มากกว่านิ้ว ร่างโปร่งนึกขอบคุณร่มผ้าใบที่กางไว้เหนือเตียง อย่างน้อยคนชั้นบนมองลงมาคงไม่เห็นแน่นอน เพราะภาพแบบนี้ควรมีแค่เขาล่ะที่ได้เห็นแค่คนเดียว


                เพี้ยะ!

                “อื้อ!...” เสียงทุ้มหวานครางเครือกับฝ่ามือที่ฟาดลงที่สะโพกอย่างหมั่นเขี้ยว ร่างโปร่งเคลื่อนกายขึ้นไปซ้อนด้านหลัง มือแกร่งกดบั้นเอวอีกฝ่ายอีกนิดแล้วจับลูกรักเข้าสำรวจช่องทางคับแน่น

                “ซี๊ด..” ร่างโปร่งสูดปากสูดคอไปกับแรงบีบรัดที่ทำให้เขารู้สึกกระสัน ขยับกายเข้าออกเบาๆกระตุ้นร่างเล็กที่สั่นเทาไปด้วยแรงอารมณ์

                “อา...ซูน...” เสียงหวานครางเพ้อ สะโพกส่ายร่อนไปมาร้องหาแรงกระแทกจากคนด้านหลัง ซูนยองเห็นอย่างนั้นจึงกระแทกกายเข้าหาอย่างไม่เก็บกลั้นอีกต่อไป

                “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ..ซะ...ซูน” ร่างเล็กครางกระท่อนกระแท่นไปตามจังหวะกระแทกของใครอีกคน สะโพกอวบกระแทกสวนกลับไปด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นไป

                “อื้ม...ฮุน..” ร่างโปร่งครางต่ำกับแรงกระแทกที่สวนกลับมายิ่งทำให้แกนกายเข้าไปได้ลึกจนขยี้จุดอ่อนไหวภายในจนร่างเล็กครางสุดเสียง 

                “อ๊า!!.. ซะ...ซูน...อื้อ” ช่องทางขมิบรัดท่อนเอ็นที่กระแทกเข้ามาถี่รัวเพื่อเอาใจ ใบหน้าขาวแดงเรื่อเม็ดเหงื่อซึมผุดจนไหลมาถึงคาง จีฮุนเอี้ยวหน้าหันมามองอีกคนที่สีหน้าตอนนี้เขาอยากจะเก็บมันไว้ดูคนเดียว

                เซ็กซี่เป็นบ้า

            สายตาร้อนแรงที่จ้องมองมาทำให้ร่างเล็กรู้สึกร้อนขึ้นทวีคูณ กายบางถดหนีจนท่อนเอ็นหลุดออกจากช่องทางแล้วพลิกตัวเอนหลังลงแนบกับฟูกนิ่ม ขาเรียวข้างหนึ่งตั้งฉากกับฟูกโดยที่อีกข้างนั้นเหยียดออกไปสีที่ข้างเอวสอบอย่างเชื้อเชิญ ซูนยองกระตุกยิ้มแล้วโน้มกายลง มือแกร่งจับลูกรักแทรกเข้าช่องทางอีกหนจนสุดทาง จีฮุนซี๊ดปากแล้วโน้มคออีกคนลงมา

                “มองแบบนี้คิดอะไรอยู่ล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ยอมขยับตัว ขาเรียวเกี่ยวเข้ากับเอวสอบแล้วยกยิ้ม

                “คิดว่าเมื่อไหร่จะกระแทกซักที” คำพูดลามกหลุดออกมาจากปากอิ่ม คิ้วเข้มยกขึ้นสูงแสร้งทำเป็นแปลกใจก่อนโถมกายเข้าหาอย่างไม่ห่วงว่าเอวจะเคล็ด เสียงครางอื้ออึ้งดังก้องบริเวณ มือเล็กลูบไปตามสันกรามตาเรียวรีจ้องตาคมเฉี่ยวในระยะประชิดอย่างหลงใหล และสายตาตอนที่อีกฝ่ายมองมาทำให้ซูนยองต้องก้มหน้าไปประกบจูบ

                “อื้ม...” เสียงทุ้มหวานครางอู้อี้ กลีบปากอิ่มขยับจูบตอบไปพร้อมๆกับขมิบช่องทางรัดอีกฝ่าย บทจูบยาวนานถูกถอนออกไปแต่มิวายกลีบปากสองคู่ก็ยังคลอเคลียกัน
                “อ่ะ..นี่” จีฮุนเอ่ยเรียกพร้อมช้อนสายตามองร่างโปร่ง

                “ว่า..”

                “จริง..ๆ..ละ..อ๊ะ..แล้ว”

                “...”

                “ฉัน...ไม่..อ่ะ..ได้อยาก..อื้อ..เล่นน้ำในสระ...อ่ะ...หรอก”

                “..อ่า..แล้ว?” ซูนยองถามเสียงพร่าเมื่อกามอารมณ์พุ่งสูงจนหูตาพร่าเบลอ เอวสอบกระแทกเข้าหาสะโพกกลมกลึงไม่ลืมหูลืมตาจนช่องทางบีบรัดหนักหน่วงและปลดปล่อยสายน้ำอุ่นเข้าช่องทางแคบ ความอุ่นวาบแล่นปราดไปถึงท้องน้อยทำให้ร่างเล็กปลดปล่อยโดยไม่ต้องพึ่งมืออีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ จีฮุนหอยหายใจในจังหวะเดียวกันกับคนด้านบน ซูนยองค่อยๆถอนกายร้อนออกแต่ก็โดนอีกฝ่ายขมิบรั้งเอาไว้

                “เดี๋ยว...”

                “.....?”

                “ที่ว่าอยากเล่นน้ำน่ะ...”

                “....”

                “..หมายถึงอยากเล่นน้ำในตัวฉันตอนนี้ต่างหาก”




                เอาล่ะ ซูนยองตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นน้ำกับจีฮุนจนฟ้าเหลืองเลยแล้วกัน


  


               ป.ล. กลับไปเม้นกันด้วยน้า

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

(CUT) FLOOR CHECKED - SOONHOON



CUT




                “ซูนยอง..” เสียงทุ้มหวานหลุดอุทานเมื่อเอี้ยวหน้าหันไปมองเจ้าของสัมผัสก็พบกับใบหน้าหล่อร้ายเข้าอย่างจัง

                “เห็นหมดแล้วใช่ไหม”

                “.....”

               “...ที่ซ้อมน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยที่ริมฝีปากอยู่ข้างหู

                “อ่ะ..อืม” ไม่รู้ว่าเป็นการตอบรับหรือครางกันแน่เพราะสัมผัสนุ่มนิ่มลากไล้ไปทั่วหลังคอ มือหนาที่เคยจับก็เริ่มลูบไปตามต้นแขนลามไปยังช่วงเอว

                “นอกจากเพิร์ฟทีมแล้วยังไม่ให้ใครดูเลยนะ” เสียงทุ้มที่ดังชัดกับสัมผัสร้อนที่หลังหูนั้นทำให้ขนอ่อนลุกชัน กายเล็กเริ่มสั่นน้อยๆเนื่องจากอารมณ์ที่เกือบจะหายไปโหมกลับมาอีกครั้ง

                “ซะ..ซูน” เสียงทุ้มหวานครางแผ่วเมื่อมือหนาล้วงเข้ามาใต้เสื้อ ปลายนิ้วไล้วนอยู่รอบแอ่งสะดือ ลมหายใจขาดห้วงจากความสะท้านนั้นทำให้ร่างโปร่งลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืด สีหน้าท่าทางของจีฮุนตอนนี้ช่างต่างกับจีฮุนในเวลาปกติ และมันก็น่าหลงใหลมากกว่าตอนคนตัวเล็กนี่ตั้งใจทำงานเสียอีก


                “หืม..” เสียงทุ้มแกล้งขานรับในลำคอลิ้นร้อนเริ่มบรรจงลิ้มรสชาติจากร่างกายขาว เริ่มตั้งแต่หลังหู ท้ายทอยจนมาถึงไหล่เล็ก

                “อ่ะ..ซูน..” หน้าหวานแดงปลั่ง ทั้งเขินอายทั้งรู้สึกเสียววูบจากความร้อนที่ชื้นแฉะบนไหล่ของตัวเอง แต่หากจะให้เขาผลักไสอีกคนออกไปในเวลาแบบนี้เขาก็ไม่มีแรงมากพอ และซูนยองเองก็รู้ว่าเขากำลัง ... ต้องการ

            “.....” ในความเงียบของควอนซูนยองนั้นก็มีสายตาที่ส่งให้คนตัวเล็กที่แสดงความต้องการของตัวเองอย่างปิดไม่มิด ตาคมเฉี่ยวมองเสื้อเชิ้ตที่ปกปิดผิวกายนั้นราวกับจะกระชากมันออกแต่ที่จริงเขาไม่แม้จะขยับกายเสียด้วยซ้ำ มือเล็กที่ติดจะสั่นเทาถูกยกขึ้นมาแกะกระดุมทีละเม็ด ทีละเม็ด จนสาบเสื้อแยกออกจากกันและรอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏขึ้น

                “เด็กดี” เสียงทุ้มเอ่ยชมแล้วทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าคนตัวเล็ก ริมฝีปากร้อนกดจูบไปทั่วหน้าท้องบาง ลากลิ้นขึ้นไปยังจุดอ่อนไหวเล็กๆนั้นแล้วขบเม้มดูดดุนจนอกบางต้องแอ่นเข้าหาสัมผัสให้มากขึ้น

                “อ้ะ..ซะ..ซูน” เสียงหวานกระเส่านั้นฟังแล้วช่างรื่นหูส่งผลให้ร่างโปร่งตวัดลิ้นหยอกล้อให้หนักมากขึ้นไปอีก แม้จะรู้สึกดีแต่ก็รู้สึกอึดอัดเพราะร่างโปร่งเอาแต่หยอกล้อส่วนอื่นไปทั่วแต่ไม่ยอมแตะส่วนที่นั้นของเขาเสียที

                “ซูน...” เสียงทุ้มหวานเอ่ยเรียกเสียงสั่น

                “หืม” เจ้าของชื่อขานรับก่อนจะเงยหน้ามาสบตาคนด้านบนแล้วก็ต้องใจกระตุก เพราะสีหน้าอีจีฮุนนั้นน่าปู้ยี้ปู้ยำให้แหลกคามือเสียจริงๆ สายตาหวานเชื่อมเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสบวกกับแก้มแดงๆนั่นยิ่งทำให้ช่วงล่างของซูนยองปวดหนึบไปหมด

                “..อึดอัด” เสียงหวานเอ่ยว่าพลางส่งสายตายังไปที่เกิดเหตุ ท่าทางแสนยั่วที่คนตัวเล็กไม่รู้ตัวสักนิดนั้นกระตุ้นอารมณ์ดิบของซูนยองได้เป็นอย่างดี ตาคมเฉี่ยวมองตามก่อนจะพบเจอความโป่งนูนที่เป้ากางเกง ร่างโปร่งยกยิ้มแล้วแกะกระดุมพร้อมทั้งรูดซิบและจัดการอาภรณ์ช่วงให้หายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว

                “แล้วยังไงต่อล่ะ” ร่างโปร่งแกล้งกระเซ้า ร่างเล็กเม้มปากอย่างนึกโมโหในสถานะความเป็นรองของตัวเอง

                “ชะ..ช่วยฮุนนะ..นะซูน” เสียงหวานเอ่ยอ้อนแล้วก็หันหน้าหนีไม่กล้าสบตาคนเบื้องล่างเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอีกคนได้เป็นอย่างดี แต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่นาน

                “Let’s check the floor baby

                ร่างเล็กถูกดึงลงจากเก้าอี้จนร่วงลงมาอยู่บนตักแกร่งก่อนจะถูกจับพลิกให้นอนราบอยู่บนพื้น สองแขนแข็งแรงถอดเสื้อตัวเองออกอย่างรวดเร็วและโน้มใบหน้าลงจนใกล้กับส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริก ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วราวกับปลอบโยนก่อนจะโอบอุ้มท่อนเอ็นนั้นจนสุดความยาว เสียงหวานครางอื้ออึ้งส่งผลให้ร่างโปร่งขยับปากขึ้นลงเร็วขึ้นเพื่อลดความอึดอัดให้คนตัวเล็ก เล็บบางจิกข่วนไปทั่วพื้นจนเกิดเสียงแข่งกับเสียงร้องของตัวเองจนถึงเฮือกสุดท้าย เสียงร้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงและร่องรอยที่ปรากฏที่มุมปากและฝ่ามือแกร่ง ซูนยองป้ายของเหลวสีขุ่นที่ช่องทางสีอ่อน ใช้นิ้วกดคลึงจนส่วนอ่อนไหวด้านหน้ากลับมาตั้งชันอีกรอบ ดวงตาหวานเยิ้มมองการกระทำนั้นที่หว่างขาตัวเองได้ไม่นานก็ต้องยกมือขึ้นมาขบกัดระบายความเสียวของตัวเอง ริมฝีปากเล็กร้องไม่มีเสียงเมื่อก้านนิ้วเรียวเริ่มแทรกเข้าในช่องทางร้อน

                “คนดีไม่เกร็งนะ” เสียงทุ้มปลอบโยนก่อนจะส่งลิ้นทักทายที่รอยจีบสร้างความกระสันให้คนตัวเล็กจนช่องตอดรับถี่รัว

                “อ๊ะ..ฮื่อ..ซูน” เสียงหวานครางอย่างไร้สติเมื่อก้านนิ้วสัมผัสโดนจุดกระสัน ซูนยองเห็นดังนั้นจึงกดย้ำๆ

                “อ๊ะ..อะ...ซะ..ซูน...อื้อ..เสียวว..” ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังเคลิ้มนิ้วเรียวนิ้วที่สองและสามก็ถูกส่งเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกันพร้อมขยับเข้าออกบดขยี้จุดศูนย์รวมความรู้สึกจนกายบางเกร็งไปทุกสัดส่วน ฟันคมงับข้อนิ้วตัวเองจนเกิดรอยฟัน ในจังหวะที่อารมณ์กำลังไต่ขึ้นสูงร่างโปร่งก็ถอนนิ้วออกมา มือแกร่งดึงกางเกงของตัวเองลงมาถึงแค่หน้าขา จัดการรั้งรูดลูกชายจนแข็งขืนท่ามกลางสายตาของคนตัวเล็กที่มองมา

                “พร้อมหรือยังคนดี” เสียงทุ้มถามเสียงกระเซ้าพลางจับลูกรักให้ปลายมนถูไปมาอยู่ที่ปากทางที่กำลังขมิบเข้าหากันอย่างต้องการการเติมเต็ม

                “อะ..ซะทีเถอะน่า” จีฮุนพูดเสียงขุ่น เขากำลังจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าบ้านี่ยังจะมาแกล้งเขาอีก

                “ใจร้อนจังนะตัวแค่นี้”

                “ไอ้บะ..บ้า..อ๊ะ!” ยังไม่เอ่ยว่าอีกคนได้เต็มเสียงนักร่างโปร่งก็แทรกกายเข้าจนสุดในคราวเดียว ซูนยองซี๊ดปากให้กับความคับแน่นและแรงตอดรัดจากคนตัวเล็ก ร่างโปร่งแช่กายไว้อย่างนั้นจนรู้สึกว่าอะไรๆก็เข้าที่จึงเริ่มกระแทกสะโพกเข้าหาช่องทางร้อนในจังหวะเนิบช้า

                “นี่...จีฮุน...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกขณะที่สวนสะโพกเข้าออกมองคนตัวเล็กที่ไม่ยอมมองหน้าเขา

                “.....”

                “นี่...”

                “....”

                “ย๊า!

                “อ๊ะ!” ไม่เรียกเปล่ากลับกระแทกกายเข้าหาจนกระทบจุดกระสันเข้าเต็มแรง จีฮุนมองตาขวางแม้หน้าจะยังแดงเรื่อด้วย
แรงอารมณ์ก็ตาม

                “งอนอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมา คนตัวเล็กยังคงเงียบแม้จะได้ยินเสียงครางผะแผ่วเพราะเขายังขยับกายอยู่ก็เถอะ หรือว่า ...

                “อื้อ!..” เสียงอู้อี้ดังขึ้นเมื่อร่างโปร่งโน้มตัวลงประกบปากคนตัวเล็กและผลที่ได้ที่การขัดขืน

                ชัดเจน

            บางทีซูนยองนั้นก็คิดว่าจีฮุนน่ะน่าเอ็นดูชะมัด แค่เพียงเขาไม่ยอมจูบก็งอนและยิ่งในช่วงเวลาที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะแบบนี้ก็ยังมีกะใจมางอนเขาอีก สุดจะอารมณ์ศิลปิน

                ซูนยองลอบขำก่อนจะหยุดการกระทำทั้งหมดไว้เพียงแค่นั้น แขนแกร่งรั้งคนตัวเล็กขึ้นและจับสลับโพสิชั่นให้ร่างเล็กคร่อมตักโดยที่แกนกายเขายังคงเชื่อมติดกัน และท่วงท่าแบบนี้นั้นยิ่งทำให้แกนกายเข้าไปได้ลึกขึ้นจนร่างเล็กเผลอคราง

                “คนดีงอนอะไรครับหื้ม” ซูนยองเอ่ยถามคนบนตักอีกครั้ง มือแกร่งยกขึ้นมากุมแก้มแดงเรื่อน่าทะนุถนอมโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมพูด

                “.....”

                “ถ้าไม่ยอมพูด...”

                “.....”

                “ก็ใส่แรงลงมาเท่าความงอนที่มีแล้วกัน” ซูนยองยิ้มทะเล้นอย่างหยอกล้อและก็ต้องเปลี่ยนเป็นนิ่วหน้าด้วยความเสียว เพราะคนตัวเล็กขย่มกายลงสุดแรงและจังหวะที่รัวเร็วนั้นซูนยองถึงกับครางในลำคอ สองแขนเล็กโอบรอบคอแกร่งใบหน้ากึ่งหล่อกึ่ง
หวานซุกซบเข้าที่ซอกคอของอีกคนเพื่อซ่อนสีหน้าอันแสนจะแปรปรวน และในมุมนี้ซูนยองนั้นแทบจะหยุดหายใจ คุณคิดดูเอาเถอะผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆกับเสื้อเชื้ตสีดำที่ตกไหล่ไปกองอยู่ที่สะโพกอวบแบบนั้นแล้วกำลังขึ้นให้คุณอยู่น่ะมันสุดยอดขนาดไหน

                “อ่ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อื้อ” เสียงหวานที่ครางข้างหูซูนยองทำให้เขาทนไม่ไหวต้องดันอีกฝ่ายออกก่อนจะจับท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาประกบจูบ ครั้งนี้จีฮุนไม่ขัดขืนทั้งยังบดคลึงริมฝีปากกลับอย่างโหยหา เกลียวลิ้นที่กระหวัดตอบโต้กันและกลีบปากนุ่มหยุ่นบดขยี้จนบวมแดง ทั้งสองผละออกจากกันเพียงไม่นานก็สานต่อรสจูบนั้นอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด

                เพราะแบบนี้ไงจีฮุนถึงชอบจูบของซูนยอง

                “ฮื่อ..อือ..ซูน..” จีฮุนครางผะแผ่วชิดกลีบปากอิ่ม เจ้าของชื่อเห็นท่าทีอีกฝ่ายก็เอื้อมมือไปกอบกุมแกนกายของเจ้าตัวเล็กรั้งรูดเพื่อเร่งให้ถึงฝั่งฝัน ซูนยองขบกรามแน่นเมื่อจีฮุนระเบิดอารมณ์ใส่เขาอย่างรุนแรง เมื่อกามอารมณ์ไต่ขึ้นไปถึงจุดขีดสุด ช่องทางบีบรัดจนเขาปลดปล่อยไปพร้อมๆกับที่คนตัวเล็กที่ฉีดพ่นน้ำรักออกมาจนเต็มมือ


                “เก่ง..เก่งมากคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วแล้วจูบขมับคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยนโดยที่จีฮุนนั้นได้แต่ซุกซอกคอหอบหายใจเพียงเท่านั้น



        ปล. กลับไปคอมเม้นกันด้วยน้า

(CUT) BDAY - MINCOUPS


CUT


                “ไอกู..อะ..อึ้ก” เสียงอุทานดังเป็นระยะไปตลอดทางเดินของโรมแรม แขนข้างหนึ่งถูกพาดไว้ที่ไหล่กว้างพร้อมกับที่ท่อนแขนแกร่งโอบรัดช่วงเอวคอดเอาไว้ เท้าสองคู่เดินเคียงคู่กันสะเปะสะปะไปมาด้วยความมึนเมาของใครอีกคน มินกยูประคองร่างในอาณัติอย่างทุลักทุเลจนถึงห้องพักของเขาสองคน


                สัมผัสนุ่มแนบชิดไปกับแผ่นหลังบางเมื่อมินกยูประคองซึงชอลมานอนลงที่เตียง ร่างสูงเดินหายไปจากบริเวณนั้นและกลับมาพร้อมผ้าชุบน้ำในมือ ฝ่ามือแกร่งดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นนั่งดีๆก่อนจะยื่นมืออีกข้างไปเช็ดหน้าเช็ดตาให้ ความเย็นจากผ้าทำให้ซึงชอลตื่นตัวขึ้นนิดหน่อย ตาหวานลืมขึ้นปริบปรือจ้องมองการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้า

                “ยิ้มอะไรครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม

                “มีฟามฉูกกกกก” เสียงหวานตอบเสียงยานคาง ท่าทางขี้เล่นนั้นทำให้ซึงชอลไม่เหมือนคนเป็นพี่เลยสักนิด

                “เรื่องอะไรครับ” มินกยูถามไปพลางเช็ดลำคอขาวของอีกคนไปด้วย

                “มิงจำด้ายแมะ...”

                “......”

                “...ที่พี่เคยพูดกับมิง...วะถ้ะเมคนมาอวยพรเย้อๆก็คงดี” คนพี่ยิ้มเผล่ไปพร้อมกับน้ำใสๆที่คลออยู่ที่ตาหวานนั้น

                “จำได้ครับ” มินกยูยิ้ม

                “...มีฟามสุขจังมิง...ฮึก” คนเมาพูดอ้อแอ้ทั้งยังน้ำตาร่วงเป็นสาย มินกยูยกยิ้มให้แล้วยื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาออกให้อย่าง
เบามือและดูไม่มีทีท่าจะซับหมดเสียทีเมื่อน้ำตาแห่งความสุขของคนตรงหน้าเขายังไหลไม่ขาดสาย วันเกิดซึงชอลปีนี้มันดีกว่าปีไหนๆที่ผ่านมา นิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นก่อนจะโน้มหน้าลงมาประกบจูบนุ่มนวล สัมผัสนุ่มหยุ่นกำลังหลอมละลายซึงชอลอย่างกับมาชเมลโล่ลนไฟ หน้าหวานปรับองศาใบหน้าให้รับรสจูบได้มากขึ้น สองแขนโอบรอบคอแกร่งพลางขยับจูบตอบอย่างโหยหา และโดยที่ไม่ทันสังเกตเมื่อใบหน้าหล่อคมผละออกไปน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วกลับไหลลงมาอีกครั้ง ภาพใบหน้าคนรักพร่ามัวไปหมด สายตาหวานเห็นเพียงแสงเทียนบนเค้กก้อนเล็กตรงหน้าเพียงเท่านั้น

“สุขสันต์วันเกิดครับพี่ซึงชอล” เสียงทุ่มกล่าวอวยพรพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ซึงชอลหลงรักมัน มือเล็กยกขึ้นมาปิดหน้าพร้อมปล่อยโฮออกมา เขากำลังมีความสุขจนจะสำลักมันอยู่แล้ว

“ฮึก...”

“เป่าเค้กเร็วครับคนเก่ง” เสียงทุ้มเอ่ยท้วงมือหนาเลื่อนมาดึงมือเล็กออกแล้วเกลี่ยน้ำตาเม็ดใสให้ คนตัวเล็กกุมมืออธิฐานก่อนจะเป่าเค้ก ดวงตาลืมขึ้นมาสบตาคมโดยที่มือแกร่งวางเค้กไว้บนโต๊ะหัวเตียง นิ้วเล็กๆเอื้อมตามไปปาดหน้าเค้กก่อนจะป้ายเนื้อครีมที่กลีบปากอิ่มของร่างสูงแล้วคว้าคออีกคนลงมาประกบจูบอีกรอบ สัมผัสนุ่มหยุ่นบดเบียดเข้าหากันอีกครั้งอย่างดูดดื่มจนคราบครีมหายวับไปกับตา ไร้ความอ่อนโยนชวนให้ใจสั่นไหวมีแต่ความร้อนแรงเข้ามาแทนที่จนมือหนาอยู่ไม่สุข ฝ่ามือกร้านลูบไล้ไปทั่วบั้นเอวอย่างเผลอไหล แผ่นหลังบางเอนพิงที่หัวเตียงโดยที่ดึงคนที่ประกบจูบโน้มตามลงมา มือที่เคยกอดคอเลื่อนไปลูบทั่วแผ่นหลังกว้าง เรียวลิ้นสอดประสานจนได้ยินเสียงชื้นแฉะ ทั้งสองแลกรสจูบที่แนบแน่นจนแทบหมดลมหายใจและผละริมฝีปากออกจากกันในเวลาต่อมา

“...พี่..” เสียงทุ้มขาดห้วงเมื่อมองสภาพอีกฝ่าย กลีบปากอิ่มบวมแดง ใบหน้าหวานเจือสีอ่อนภายใต้หมวกฮู้ดนั่นเริ่มปลุกให้อะไรต่อมิอะไรของมินกยูนั้นตื่นขึ้น

“หืม...” คนเมาขานรับในลำคอ ร่างกายที่เคยปวกเปียกพอโดนกระตุ้นเข้ามันก็ตื่นเช่นกัน มือเล็กเริ่มอยู่ไม่สุขด้วยการล้วงเข้าไปใต้เสื้อบาสของอีกคน ลูบไล่ระดับไปสูงขึ้นจนถึงยอดทุมถัน ปลายนิ้วเขี่ยวนปลุกเร้าความต้องการของคนน้องให้มากขึ้น

“พี่ซึงชอล..” เสียงทุ้มครางชื่ออีกคนในลำคอ มือหนายกขึ้นปัดหมวกฮู้ดให้พ้นศีรษะทุยก่อนจะซุกหน้าเข้าที่ลำคอขาวเนียน ลิ้นชื้นไล้เล็มไปทั่วโดยไม่คิดจะทิ้งรอยเอาไว้ คนตัวเล็กครางฮือทั้งยังเอียงคอเปิดช่องว่างให้อีกคนได้ทำอะไรๆสะดวกมากขึ้น มือเล็กไล้วนไปทั่วบ่ากว้างแล้วเลื่อนขึ้นมาจิกกลุ่มผมนุ่มระบายความรู้สึก สติเริ่มพร่าเลือนไม่รู้ด้วยฤทธิ์ของกามอารมณ์หรือเครื่องดื่มมึนเมา สองขากางแยกออกจากกันส่งผลให้ร่างสองร่างแนบชิดจนไม่มีช่องว่าง

“อ่ะ..เดี๋ยว..มะ..มิง” เสียงทุ้มหวานเอ่ยท้วงพลางดันไหล่กว้างน้อยๆโดยที่เจ้าของชื่อนั้นผละออกมาแล้วมองหน้าเขาด้วยสีหน้าที่มีคำถาม กลีบปากอิ่มพรูลมหายใจอย่างขัดเขินก่อนจะพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้มินกยูรู้สึกอยากจะฟัดให้จมเขี้ยวไปเลย

“เป่าเค้กแล้ว..ต้องแกะของขวัญด้วยสิ”


พูดจบมือเล็กก็ถลกเสื้อบาสของร่างสูงออกตามด้วยการพลิกตัวขึ้นด้านบนโดยให้อีกฝ่ายนั่งพิงหัวเตียง มือซนเริ่มป้วนเปี้ยนแถวขอบกางเกงก่อนที่มือเล็กๆนั้นจะหายเข้าไปใต้กางเกงนอน ความร้อนจนฝ่ามือโอบอุ้มท่อนเอ็นใหญ่ใต้ร่มผ้านั้นทำให้มินกยูหายใจติดขัด มือเล็กบีบคลำขยำอย่างนึกสนุกจนมันเริ่มแข็งชัน มือแกร่งเลื้อยขึ้นมาเกาะเอวคอดก่อนจะเลื่อนมาเกี่ยวขอบกางเกงจนร่นลงไปที่หน้าขา ซึงชอลโก่งสะโพกยามที่คนตัวสูงทำการปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นล่างให้ตัวเองจนมันหลุดออกไปและทำแบบเดียวกันกับร่างสูงคือเกี่ยวขอบกางเกงนอนอีกคนออก สะโพกอวบบดเบียดเข้าหากายแกร่งเมื่อร่างกายส่วนล่างของทั้งสองนั้นไร้สิ่งปิดกั้น ตาหวานปริบปรือไปพร้อมๆกับที่จับท่อนทั้งสองเสียดสีกันไปมา

เซ็กซี่เป็นบ้า

มินกยูคิดในใจไปพร้อมๆกับมองการกระทำของอีกคนและทนไม่ไหวจนต้องยื่นมือไปดึงเสื้อฮู้ดของคนตัวเล็กออกเพื่อความเท่าเทียม เขาเปลือย คนตัวเล็กก็ต้องเปลือยด้วย ซึงชอลส่งยิ้มซนๆให้ก่อนจะถดกายออกและอยู่ในท่าหมอบคลาน ใบหน้าหวานโน้มลงอยู่ที่หว่างขาแกร่งและท่อนเอ็นร้อนที่กำลังชี้หน้า มือเล็กข้างหนึ่งกอบกุมมันไว้ก่อนจะเอาแก้มไปแนบแล้วถูไปมา

“ไมค์ร้อนจังน้า..” คนตัวเล็กเอ่ยแซวเสียงอ้อแอ้ มือจับท่อนเอ็นให้ตั้งตรงก่อนจะปัดป่ายเสียดสีที่กลีบปากอิ่ม การกระทำเอ็กซ์แตกแบบนั้นทำให้คนตัวสูงครางต่ำในลำคอ ในหัวสบถคำหยาบคายไปแสนล้านคำกับความขี้ยั่วของคนตรงหน้า

“มันร้อนแล้ว...พี่ก็คูลดาวน์ให้หน่อยสิครับ” เอ่ยบอกพร้อมลูบแก้มใสอย่างรักใคร่และคนตัวเล็กก็ตอบสนองให้อย่างใจดี กลีบปากเล็กโอบอุ้มท่อนเอ็นร้อนที่แน่นคับปาก รั้งรูดช้าๆเพื่อหยอกล้อคนตัวสูง ฟันคมครูดไปตามแนวยาวไปพร้อมกับลิ้นที่ตวัดเล็มเลียราวกับทานไอศกรีมแท่งโปรด ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้ยินเสียงครางต่ำของอีกคน และก่อนที่ร่างสูงจะได้แตะฝั่งฝันคนตัวเล็กก็ถอนปากออกเสียก่อน

“อึดอัด...” เบะปากงอแงใส่คนน้องแล้วชี้ตรงจุดเกิดเหตุให้ดูเรียกรอยยิ้มเอ็นดูไปได้อีกกอง ก้านนิ้วยาวถูกส่งเข้าปากอิ่มเล็กโดยที่เรียวลิ้นซนๆนั้นก็ตวัดเลียให้อย่างรู้งาน จนร่างสูงคิดว่าได้ที่แล้วจึงถอนออก โน้มกายขาวเข้ามาโอบกอดจนอกแนบอกและคนตัวเล็กก็โก่งสะโพกให้อย่างรู้งานอีกแล้ว นิ้วเรียวที่ชุ่มน้ำลายแตะเข้าที่ร่องสะโพก กดย้ำที่ปากทางก่อนจะค่อยสอดนิ้วเข้าไป กายขาวบนตักเริ่มสั่นด้วยความเกร็งจนเขาต้องกดจูบที่ข้างขมับ

“ไม่เกร็งสิครับ” เสียงทุ้มกระซิบปลอบที่ข้างหูก่อนจะกดจูบซ้ำ ช่องทางแคบพยายามคลายความเกร็ง สติสัมปชัญญะเริ่มกลับมาเพราะความแน่นเสียดสีไปทั่วช่องทาง ก่อนที่กายขาวจะสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างสูงแตะโดนจุดอ่อนไหว

“อ๊ะ..” สองแขนโอบรอบคอแกร่งแล้วซุกหน้าที่บ่ากว้าง มินกยูลอบยิ้มร้ายก่อนจะกระแทกนิ้วเข้าไปแตะจุดนั้นซ้ำๆ

“อ่ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..มะ..มิง” เสียงทุ้มหวานครางอย่างเสียวซ่าน ช่องทางสีหวานขมิบตอดรัดเป็นอย่างดีจนร่างสูงค่อยๆเพิ่มนิ้วเข้าไปเพื่อขยายช่องทาง สามนิ้วแกร่งหยุดกระแทกแต่เปลี่ยนเป็นหมุนควงไปมาสร้างความทรมานให้คนตัวเล็กมากขึ้นไปอีก

 “...มะ...มา...” เสียงทุ้มหวานพูดขาดห้วง

“..หืม”

“เข้า..มา..อื้อ..ซะ..ที” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอึดอัดและต้องการนั้นเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าคมคาย มินกยูถอนนิ้วทั้งสามออกก่อนจะจับลูกรักขึ้นมารั้งรูดเตรียมความพร้อมไม่กี่ครั้งและนำไปจ่อที่ปากถ้ำ จับมันเสียดสีไปมาไม่ยอมเข้าไปเสียที ซึงชอลหายใจฮึดฮัดด้วยความขัดใจ ใบหน้าหวานหงิกงอก่อนจะงับไหล่กว้างแรงๆ

“ผมเจ็บนะ” มินกยูแหย่เสียงกระเซ้า

“..แกล้งอยู่ได้” ซึงชอลว่าเข้าให้แล้วหยิกนี่เอวสอบแรงๆอีกทีก่อนจะเป็นฝ่ายกดสะโพกเข้าหาทีเดียวจนสุดทาง

“อ่ะ..อ๊ะ!” เพราะความหุนหันใจร้อนนั้นทำให้คนตัวเล็กจุกเล็กน้อย ซึงชอลนั่งนิ่งรอช่องทางปรับสภาพรับสิ่งที่ใหญ่โตกว่านิ้วนั้นจนกว่ามันจะเข้าที่ และคนที่ทรมานตอนนี้เห็นทีจะเป็นมินกยูเสียแล้ว

“ซี๊ด..” มินกยูสูดปากสูดคอให้ความคับแน่นที่แทบจะทำให้เขาไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เอวสอบเด้งสวนขึ้นไปอย่างลืมตัวก่อนจะโดนตีป้าบเข้าที่ต้นแขน

“อย่าทำ..” คนตัวเล็กพูดเสียงดุ

“ผมขอทะ...” ร่างสูงกำลังจะกล่าวขอโทษเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงเจ็บแต่ยังพูดไม่ทันจบคนตัวเล็กก็สวนขึ้นมาก่อน

“มิงเจ็บเอวอยู่..”

“.....”

“..เดี๋ยวพี่ทำเอง” สิ้นเสียงนั้นมือเล็กก็จัดการยัดหมอนเพื่อบล็อกหลังให้คนตัวสูงก่อนจะขย่มสะโพกลงมาอย่างลืมตาย ความจุกเสียดหายไปพร้อมกับความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่และเห็นทีค่ำคืนนี้คงจะยังอีกยาวไกล



เพราะเจ้าสาวของเขานั้นแรงดีเป็นบ้าเลย



ปล. กลับไปเม้นกันด้วยน้า

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

(CUT) MIC TESTED - MINCOUPS




CUT


“มะ..ไม่เอาน่ะมินกยู” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงสั่น มือที่สั่นไปตามเสียงเอื้อมไปจับมือใหญ่ที่กำลังคุกคามร่างกายของเขาหมายจะดึงมือซนนั้นออกแต่กลับโดนปัดทิ้ง


“มะ..มินกยู..อึก” เสียงทุ้มหวานพยายามเอ่ยเสียงดุแต่ก็มือหนานั้นก็เริ่มบีบคลำจนไมค์นั้นชักจะร้อนและนูนคับกางเกงขึ้นเรื่อยๆ


“ไมค์ฮีตขนาดนี้ไม่คูลดาวน์หน่อยเหรอครับหื้ม” เสียงทุ้มกระเส่าเอ่ยข้างหูนิ่ม ลิ้นร้อนจงใจเลียแผ่วเบาเพื่อปลุกปั่นอารมณ์อีกฝ่ายให้สูงขึ้นไปอีก


“อ่ะ..นี่มัน..ห้องซ้อมนะ” เสียงทุ้มหวานขาดห้วงเมื่อมือหนาเริ่มจะคืบคลานเข้าไปใต้กางเกง สัมผัสร้อนจากฝ่ามือที่ไม่มีเนื้อผ้ากั้นนั้นยิ่งทำให้คนตัวเล็กเตลิดไปกันใหญ่


“ผมล็อคห้องแล้วหน่า” ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ... เขาน่าจะนึกแปลกใจที่อีกฝ่ายเปิดไฟห้องสลัวๆแบบนี้ตั้งแต่ตอนซ้อมแล้ว


“เด็กบ้า!...อ๊ะ!” เอ่ยว่าไม่ทันเต็มคำสัมผัสวาบหวามก็ดึงสติคนตัวเล็กไปเสียหมด ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อาภรณ์ส่วนล่างของซึงชอลถูกถอดออกไป ความเย็นภายในห้องไม่สามารถทำอะไรเขาได้ถ้าเทียบกับความร้อนรุ่มที่ถูกปลุกขึ้นด้วยฝีมือของคนตรงหน้า มือหนากอบกำไมค์ของคนตัวเล็กที่เคยอ่อนนุ่มบัดนี้กลับแข็งชันจนชี้หน้าเขา รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้มเรียกเลือดไปกองบนใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี และรอยยิ้มซุกซนก็หายไปพร้อมกับสัมผัสชื้นแฉะที่กลางลำตัวทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เรียวลิ้นที่ลากไล้จากโคนจรดปลาย ฟันคมที่ขบไปตามท่อนเอ็นทำเอาปลายเท้าหงิกเกร็ง อารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้คนตัวเล็กไม่คิดถึงเรื่องสถานที่อีกต่อไป


“อ่ะ..อ๊ะ...มิง..มิง” เสียงหวานครวญครางชื่ออีกคน ตาหวานหลับพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัส มือเล็กเอื้อมไปลูบผมนิ่มของเด็กตัวสูงที่กำลังปรนเปรอเขาอย่างพอใจและมินกยูก็เป็นเหมือนดั่งลูกหมาโกลเด้นตัวน้อยที่พอถูกชมก็อยากที่จะเอาใจ กลีบปากที่โอบอุ้มท่อนเอ็นนั้นรูดขึ้นลงถี่รัว จากมือที่เคยลูบผมกลับเริ่มจิกไปตามความเสียวกระสันที่ได้รับ ยิ่งพอใกล้จุดสูงสุดเท่าไหร่มือเล็กก็พยายามจะผลักไหล่หนาออกไปมากเท่านั้น


“อ่ะ..อ๊า..มะ...มิง..ออก..ไป..อื้อ” เสียงทุ้มหวานเอ่ยกระท่อนกระแท่นทั้งยังพยายามจะผลักอีกคนออกแต่ดูเหมือนเจ้าเด็กสูงก็ไม่ยอม มือหนาจับเอวคอดยึดไว้แน่นรั้งรูดไมค์ร้อนให้เร็วขึ้น


“มะ..มิง..อ๊ะ..มะ..ไม่..ไหว...ละ...อ๊า!!” สิ้นสุดความอดกลั้น ของเหลวสีขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเต็มปากอิ่มของเด็กตัวสูงและเจ้าเด็กแสบนั่นก็กลืนลงคอไปเสียทุกหยาดหยดก่อนจะผละริมฝีปากออกมา เสียงหอบแฮ่กจนตัวโยนดังก้องไปทั่วห้องซ้อม เร้าให้ส่วนกลางลำตัวของร่างสูงยิ่งปวดหนึบ มือใหญ่คว้ามือเล็กขึ้นมาก่อนจะแปะมันลงไปที่กลางลำตัวของตัวเอง


“ผมว่าไมค์ผมก็ฮีตแล้วล่ะ พี่ช่วยคูลดาวน์ให้ผมหน่อยนะ”






กลับไปอ่านต่อ: http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1496966&chapter=2