วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

(CUT) WASH IT - WONSOON






มือขาวเอื้อมไปปัดสายยางออกไปให้พ้นทาง วอนอูไม่ปฏิเสธมันแม้แต่น้อยแถมยังลอบยิ้ม เมื่อสีหน้าเหนื่อยและหงุดหงิดนั่นดูจะจางหายไปแล้ว ดวงตาแวววาวคล้ายกับลูกแก้วกำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเขา ซึ่งเขารับรู้ได้มันอย่างดี


ราวกับแม่เหล็กที่ต่างขั้ว คนสองคนโน้มเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติ แขนนุ่มนิ่มโอบรอบคอแกร่งได้เหมาะเจาะ พร้อมริมฝีปากสองคู่ที่แนบชิดติดกัน บดคลึงกันอย่างร้อนแรงตามอารมณ์ที่เริ่มไต่ขึ้นสูง เล็บบางจิกลงที่หลังคอเมื่อปลายลิ้นเรียวสอดแทรกและตักตวงความกลมกล่อมของรสจูบอย่างตะกละตะกลาม ร้อนแรงจนแทบลืมหายใจจนต้องตีเข้าที่ไหล่อีกฝ่ายเมื่อรู้สึกเหมือนจะหมดลม


“แฮ่ก..” ซูนยองหอบครางเมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ ปากกระจับแวววาวด้วยน้ำเคลือบใส พวงแก้มขึ้นสีเรื่อยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบของคนมองให้รุนแรงขึ้นอีก


วอนอูเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เขาลากกลีบปากผ่านพวงแก้มนิ่ม แผ่วเบาเสียจนรู้สึกตัวลอย ก่อนจะต้องหลุดเสียงครางเมื่อมันหยุดแวะที่ซอกคอหอม ขบดูดมันอย่างดุดันขัดกับฝ่ามือหยาบที่เริ่มบีบคลึงไปทั่วร่างด้วยความอ่อนโยน


“อื้อ” ซูนยองคราวแผ่วราวกับเพ้อ เสียงกระเส่าดังอยู่ไม่ไกลจากใบหูวอนอูเท่าใดนักยิ่งทำให้เสียงขบดูดดังขึ้น และผลลัพธ์ของมันคือรอยแดงจ้ำเมื่อกลีบปากเรียวถูกทอดถอนออกไป


วอนอูเลื่อนมือไปปลดกางเกงผ้ายืดของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ โดยที่เจ้าของกางเกงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาหันไปหย่อนอาภรณ์ส่วนล่างใส่กะละมัง ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรลอยข้ามหัวของเขาไป และพบว่ามันคือเสื้อที่ซูนยองเคยสวมเอาไว้



ขาวน่าสัมผัสไปทั้งตัว


เส้นสติของวอนอูเหมือนถูกตัดออกไปอีกเส้น เขาดึงรั้งให้อีกฝ่ายลุกขึ้นก่อนจะดันให้แผ่นหลังขาวเนียนแนบชิดไปกับกำแพง สองแขนนิ่มที่โอบรอบเอวสอบแลดูเหมือนกอด แต่เปล่า เพราะสิ่งที่อยู่ในอาณัติของสองมือนั้นคือชายเสื้อยืดตัวโปรดของอีกฝ่าย ซูนยองเลิกเสื้อวอนอูขึ้นโดยคนถูกกระทำมีท่าทีขัดขืน


“แฟร์หน่อยดิ” ซูนยองพูดโดยที่วอนอูโคลงศีรษะไปมา แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายถอดเสื้อออกไปและซูนยองก็จู่โจมเขาทันที ปากกระจับขบเม้มลงที่อกกว้าง ดูดดุนอย่างดุดันกว่าที่วอนอูทำกับตน ฟันคมฝังลงบนผิวเนื้อ ขบ กัด จนวอนอูรู้สึกเจ็บจี๊ด


หงุดหงิด


ถึงจะไม่มากแต่ก็ยังรู้สึก เมื่อรู้ว่ารอยจาง ๆ ที่มันขึ้นมาก่อนหน้าไม่ได้มาจากเขา ซูนยองรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่สามารถเรียกร้องสิทธิ์อะไรได้และเขาก็ไม่ได้หึง แต่ถ้าบอกว่าหวงก็คงใช่ ในเมื่อพื้นที่บนร่างกายของวอนอูมันเป็นของเขา


“เฮ้ เบาหน่อย” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่ข้างหูไม่ได้ทำให้ซูนยองอ่อนลงหากอีกฝ่ายไม่บรรจงเม้มริมฝีปากลงบนกกหูของเขา จุดอ่อนที่วอนอูรู้ว่ามันสามารถสยบเขาได้และกลายเป็นว่าซูนยองจะต้องตกเป็นรองอีกครั้ง


ร่างนุ่มนิ่มอ่อนยวบระทดระทวยเมื่อเรียวลิ้นไล่เล็มที่ใบหูอย่างเอาใจ เสียงครางกระเส่าดังแผ่วแต่กลับก้องไปทั่วห้องน้ำ ฝ่ามือหยาบเลื่อนไปบีบคลึงจุดสำคัญผ่านอาภรณ์ตัวจิ๋วที่แทบจะหมดหน้าที่ในเมื่อมันไม่สามารถโอบอุ้มสิ่งที่อยู่ภายในได้จนมิด นิ้วเรียวยาวทำท่าจะเกี่ยวขอบชั้นในลงแต่มือนิ่มกลับเลื่อนมาตะปบอย่างทันท่วงที ซูนยองเล็มเลียสันกรามอีกคนอย่างยั่วยุสลับกดจูบแผ่วเบา ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าชิดติดกับสันกรามอีกคน


“เตียงเถอะนะ”


แม้วอนอูภายนอกอาจจะดูผอมแต่กลับแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ เขาโอบอุ้มซูนยองไว้โดยที่สองขาขาวเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์สบจ้องกันระหว่างทางที่ก้าวเดินไปยังเป้าหมาย ประตูสองบานที่ตั้งอยู่ข้างกันบ่งบอกถึงห้องนอนของเขาทั้งคู่ วอนอูทำท่าจะเดินไปยังบานประตูห้องของซูนยอง แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่เห็นด้วย ซูนยองโน้มหน้าลงกดจูบที่โหนกแก้มกร้าน ลากริมฝีปากลงไปถึงซอกคอ ขบดูดอย่างอ่อนหวานต่างกับในห้องน้ำอย่างชัดเจน


ซูนยองกำลังอ้อน

และวอนอูก็รู้ดีอีกเช่นกัน


เพราะผลคือแผ่นหลังขาวเนียนแนบลงบนผืนเตียงที่คลุมด้วยผ้าปูสีเข้ม กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของคนที่อยู่เหนือร่างเขาเตะจมูกเจือจาง กลิ่นกายวอนอูฟุ้งไปทุกอณูของผ้าปูเตียง แต่นั่นไม่ใช่จุดสนใจของซูนยองอีกแล้ว เมื่ออีกฝ่ายที่กำลังคร่อมทับเขาได้โน้มลงมาพรมจูบไปทั่วร่าง ริมฝีปากเรียวขบเม้มผิวเนื้อขาวเนียนไปทั่ว ฉับพลันที่ซูนยองจิกทึ้งกลุ่มผมหนา ก็ตอนที่ลิ้นร้อนตวัดเล็มเลียอยู่ที่ยอดอกสีอ่อน อกบางแอ่นเข้าหาอย่างมีอารมณ์ร่วม เสียงครางแผ่วกระเส่าเสียจนวอนอูตวัดลิ้นแรงขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรู้สึกดี


“ว..วอนอู” ซูนยองเพ้อหาชื่ออีกคนที่ตอนนี้ละความสนใจจากอกบางไปยังหน้าท้อง แวะเวียนหยอกล้อที่แอ่งสะดือก่อนจะละเลยส่วนสำคัญไป ริมฝีปากหยุดแวะที่ต้นขาด้านในเป็นที่ถัดมา ขบเม้ม ดูดดุนจนเริ่มขึ้นสีจาง วนอยู่เช่นนั้นสลับกันทั้งสองข้างจนขาขาวเริ่มสั่น ท่าทีกระสับกระส่ายปรากฏแก่สายตาเรียวคม วอนอูมองอย่างนึกสนุกเมื่อสีหน้าซูนยองกำลังบอกอย่างชัดเจนว่าอึดอัด


วอนอูยืดตัวขึ้นไปประจันหน้ากับคนใต้ร่าง มือเล็กเริ่มมีท่าทีซุกซนโดยการเลื่อนไปยังจุดสำคัญเพื่อคลายความอึดอัด มือกร้านคว้าไว้ได้ทันก่อนจะประสานมือไปตามร่องนิ้ว กักขังมือนิ่มไว้เหนือศีรษะของเจ้าตัว แววตาซูนยองสั่นระริก มันเต็มไปด้วยอารมณ์ อึดอัด เว้าวอน และนั่นมันยิ่งทำให้วอนอูสติเหลือน้อยลงทุกที


กลีบปากกลับมาประกบกันอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่คุขึ้นเรื่อย ๆ บทจูบรุนแรงจนปากทั้งคู่บวมช้ำ ผละออกเพื่อโกยลมหายใจก่อนจะกลับมาประสานกันใหม่อยู่อย่างนั้นจนสะโพกอวบอยู่ไม่ติดเตียง ความอึดอัดเบื้องล่างยิ่งทำให้ซูนยองคลั่ง เจ้าตัวแอ่นสะโพกเพื่อเสียดสีตัวตนไปกับร่างกายของคนด้านบน จนวอนอูต้องขยับสะโพกสีกับอวัยวะเดียวกันกับซูนยอง ความโป่งนูนใต้ร่มผ้าของเขานั้นเริ่มเล่นงานเขาบ้างแล้ว


ซูนยองสะบัดมือที่เกาะกุมกันทิ้ง เขาไม่สามารถอดทนไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ร่างขาวผุดลุกพลางดันให้อีกคนเป็นฝ่ายนอนราบไปกับผืนเตียง เพียงครู่เดียวอาภรณ์ตัวสุดท้ายที่แสนไร้ประโยชน์ก็ถูกปลดเปลื้องด้วยน้ำมือของผู้สวมใส่  ซูนยองปีนขึ้นเป็นคร่อมร่างสูงไว้ด้วยทิศทางที่แปลกไป ตรงหน้าของเขาเป็นสิ่งปูดนูนที่ดุนดันผ่านกางเกงผ้าร่ม เขาเกี่ยวขอบกางเกงทิ้งอย่างไม่ลังเลก่อนจะครอบครองสัดส่วนที่กำลังชี้หน้าเขาอย่างทันท่วงที


“อา..ซ...ยอง…” วอนอูคำรามเสียงต่ำ เขากัดฟันดังกึกเมื่อความเปียกแฉะที่แสนจะอุ่นกำลังครอบครองตัวตนของเขาอย่างบ้าคลั่ง เสียงเหนอะหนะดังลั่นห้องเมื่อส่วนปลายกระแทกกับลำคอของผู้กระทำอย่างรุนแรง


สุดท้ายนี้ เส้นสติของวอนอูก็ถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์ เบื้องหน้าของเขาคือสะโพกอวบที่ส่ายร่อนไปมาอย่างยั่วยุ กลีบปากอิ่มดูดนิ้วเรียวของตัวเองจนเกิดเสียง ก่อนจะดึงมันออกมาเพื่อไปสอดใส่ช่องทางที่ยั่วเย้าอยู่ตรงหน้า


“อึ้ก!..” ซูนยองกระตุกสั่น เมื่อเรียวนิ้วชำแรกเข้าไปยังร่องสะโพก สุดข้อนิ้วภายในคราวเดียว จังหวะการขยับปากของซูนยองสะดุดลงเมื่อปลายนิ้วหมุนควงจนสะโพกส่ายร่อนหนักกว่าเก่า


“อ๊า..ว..อื้อ..” ร่างเล็กยอมแพ้ เขาละออกจากจุดสำคัญที่กำลังโป่งพอง ร้องครางกับความเสียวซ่านที่ได้รับเมื่อคนใต้ร่างเพิ่มนิ้วเป็นสามนิ้วในทีเดียว กายขาวกระตุกเมื่อปลายนิ้วสะกิดโดนจุดกระสันเข้าอย่างจัง ฟันคมงับริมฝีปากอย่างอดกลั้น ความเสียวซ่านกำลังตีรวนในร่างกายจนทำให้เขาต้องการในสิ่งมากกว่า


วอนอูร้ายขนาดนี้

แล้วเขาจะไม่หวงคน ๆ นี้ได้ยังไง



ซูนยองสไลด์ตัวลงมาในจุดที่ต่ำกว่า ความวูบโหวงปรากฏชัดเมื่อนิ้วเรียวหลุดออกไป มือขาวคว้าสิ่งโป่งพองขึ้นมารั้งรูดรัวเร็วแค่ไม่กี่ครั้งก่อนจะยกสะโพกแล้วทิ้งตัวใส่แท่งร้อนในคราวเดียว


“อ๊า!” ซูนยองครางลั่น ในหัวขาวโพลนไปหมด ลืมการหยอกเอินช่องทางอย่างที่เคยทำ ลืมความค่อยเป็นค่อยไปเพราะมันไม่ทันใจเขาอีกแล้ว


“ซี๊ด..” วอนอูสุดปากสูดคอเมื่อเจ้าตัวเล็กขย่มกายขึ้นลงอย่างลืมตาย ถี่รัว รุนแรง กับช่องทางที่ตอดตุบบีบรัดกายของเขายิ่งทำให้วอนอูเสียสติไปกันใหญ่ และเขาก็คิดแล้วว่าแรงแค่นี้มันไม่เพียงพออีกต่อไป


“อ้ะ..อา..ว...อู..อึ้ก” ซูนยองหวีดครางลั่น เมื่อร่างสูงยันตัวขึ้นแล้วดันเขาให้อยู่ในท่าหมอบคลาน สองมือจับยึดที่สะโพกกลมกลึง ดึงรั้งให้อยู่ในองศาที่เหมาะสมแล้วถมกายใส่รุนแรง ทั้งรัว และเร็วกว่าที่เขาทำหลายเท่า


นิ้วเรียวกรีดไปตามไขสันหลัง ความเสียววูบเล่นงานจนซูนยองไม่สามารถพยุงตัวเองได้อีก ร่างขาวคว้าหมอนมาฝังใบหน้า ครางอู้อี้อยู่กับสิ่งนั้นพร้อมกับสองมือที่จิกทึ้งหมอนใบใหญ่อย่างหาที่ระบาย ช่องทางตอดตุบถี่รัวด้วยความรู้สึกดี


“อา..ซูนยอง..” ไม่รู้ว่าวอนอูโน้มตัวมาใกล้ตั้งแต่ตอนไหน เพราะตอนนี้เสียงครางทุ้ม ๆ มันดังที่ข้างหูของซูนยอง สัมผัสนุ่มหยุ่นที่คลอเคลียอยู่ที่กกหูยิ่งทำให้ซูนยองเตลิดไปไกลกว่าเดิม



ยิ่งวอนอูรู้จักร่างกายของซูนยองดีเท่าไหร่

มันก็ยิ่งยากที่ซูนยองจะอยู่เหนือวอนอูได้


“อา..อู...วอนอู…” ซูนยองครางเครือเรียกชื่ออีกฝ่าย มือขาวเลื่อนมากุมมือกร้านที่เพิ่งเลื่อนมากุมแก้มเขาเมื่อกี้นี้


“หื้ม?” เจ้าของชื่อขานรับ การให้ความสนใจกับบทสนทนาไม่ได้ทำให้แรงกระแทกนั้นลดน้อยลง

“จะ...อา...ถึง...อ๊ะ!” บอกถึงจุดประสงค์ของตัวเองไม่ทันเสร็จดีก็ต้องหลุดครางลั่น เมื่อร่างสูงจับตนเปลี่ยนท่าปุบปับ ความวูบโหวงเข้ามาทักทายกระทันหันพร้อมแผ่นหลังกลับมาแนบกับผืนเตียงอีกครั้ง เรียวขาขาวถูกจับแยกออกมาพาดบ่ากว้างทั้งสองข้าง สะโพกลอยไม่ติดเตียง มองจากมุมด้านล่างอย่างนี้ยิ่งเรียกเลือดให้กองบนหน้ามากขึ้นไปอีก


“จัดการสิ” เสียงทุ้มว่า กายแข็งขึงกลับเข้าร่องสะโพกอย่างใจเย็น ขยับเข้าออกหนักแน่นสลับสองมือที่บีบคลึงขาอ่อนด้านในอย่างระบายอารมณ์


“อา..อู...อื้อ...วอนอู…” แค่แววตาของร่างสูงที่มองมาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาจะมอดไหม้อยู่แล้วยังไม่เท่าความร้อนแรงที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ สายตาและการกระทำของวอนอูกำลังหลอมละลายซูนยองให้เหลวยิ่งกว่าขี้ผึ้งลนไฟ



แต่ถึงอย่างนั้น ฝ่ามือขาวที่สั่นระริกก็เอื้อมไปกอบกุมตัวตนของตัวเองไว้ ขยับรั้งรูดผ่อนคลายความอึดอัดที่ใกล้จะได้ปลดปล่อย สีหน้าแสนเย้ายวนรวมไปถึงการกระทำของซูนยองยิ่งส่งผลให้วอนอูเสือกไสร่างกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง


ดวงตาฉ่ำปรือ ฟันซี่เล็กงับกลีบปากล่าง และไหนจะมือที่ดูนุ่มนิ่มกำลังช่วยตัวเอง

ภาพจากด้านบนมันก็รัญจวนไม่ต่างกัน


“อื้อ..วอนอูอา...อึ้ก!” ซูนยองครางไม่ขาดปาก มือขาวขยับรั้งรูดตัวตนที่แข็งขืนจนถึงจุดขีดสุด ก่อนมันจะได้ปลดปล่อยออกมา ตาเรียวชี้หลับพริ้มกับแสงสว่างที่พานพบ ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อแรงกระแทกกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง


วอนอูกำลังจะตามมาในไม่ช้าแล้ว


“อ้ะ..อ๊า..อา” ครางอย่างกระสันซ่าน มือที่เลอะด้วยคราบน้ำปัดป่ายไปตามร่างกาย เร่งเร้า ยั่วยุให้คนมองมัวเมา

วอนอูปล่อยขาเรียวออกจากบ่า จับมันแยกกว้างแล้วถมกายใส่อย่างหน้ามืดตามัว เขาครางต่ำในลำคอจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน กัดฟันดังกึกอย่างสะกดกลั้นเมื่อร่องสะโพกบีบรัดเขาแน่นขึ้น และแน่นขึ้น


“อ๊า!/อา!” เสียงครางเฮือกสุดท้ายดังขึ้นพร้อมกับความอุ่นที่ถูกฉีดพ่นเข้ามาเต็มช่องทาง กลับกันที่ร่างสูงรู้สึกสบายตัวหลังจากได้ปลดปล่อย ใบหน้าหล่อคมโน้มลงซบกับไหล่ลาด กายแกร่งโน้มตามลงมาจนเนื้อแนบเนื้อ สะโพกสอบขยับเข้าออกมาเชื่องช้าเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่คั่งค้าง และหยุดลงเมื่อมันออกมาจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ถอนตัวออกไป


“วอนอู” ซูนยองเอ่ยเรียกปนเสียงหอบ อกขาวกระเพื่อมอย่างเหนื่อยอ่อน ปากกระจับงับเอาอากาศเข้าปอด สาบานเลยว่าแข่งไตรกีฬาเขายังไม่เหนื่อยเท่านี้


“อือ”


“ไม่เอาออกอะ?” ซูนยองท้วง เมื่อช่องทางยังคงถูกเติมเต็ม


“เดี๋ยวเลอะเตียง” วอนอูบอกเหตุผล กลีบปากอิ่มยังคงชมเชยหัวไหล่ขาวเนียนอยู่อย่างนั้น จนเสียงหอบของคนใต้ร่างเงียบไปเขาจึงผละออก


วอนอูสอดมือไปโอบแผ่นหลังเนียน รั้งให้อีกฝ่ายขยับขึ้นมานั่งทับตักของตัวเองเรียกเสียงครางแผ่วจากร่างขาวได้เป็นอย่างดี แต่ซูนยองก็รู้หน้าที่ตัวเองถึงได้เกี่ยวขาเข้ากับเอวสอบ


“เดี๋ยวพาไปล้าง” พูดจบก็ทำตามที่บอก สีหน้าวอนอูดูสบายเมื่อเทียบกับใบหน้าของซูนยองที่บิดเบี้ยวเมื่อจังหวะการก้าวเดินของวอนอูสะเทือนไปถึงเขาจนสั่นไปทั้งตัว



*มีต่อที่เด็กดีน้า

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

(CUT) BOSS CALLING - MINCOUPS




โดยที่ไม่ต้องสานต่อบทสนทนาใด ๆ ร่างสองร่างก็โผเข้ากันราวกับมีแรงดูดของแม่เหล็ก บรรยากาศเอื่อยช้าหายไปในทันตา สัมผัสจาบจ้วงรุนแรงเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร นิ้วเรียวยาวเกี่ยวเสื้อสูทหนังให้หลุดออกจากไหล่ลาด ก่อนจะเคลื่อนมือหนามากระชากที่สาบเสื้อเชิ้ต เพียงเสี้ยววินาทีบนรังดุมก็ไม่เหลือกระดุมแม้สักเม็ด แขนขาวเอื้อมขึ้นกอดคออีกฝ่าย ยามที่มินกยูสาละวนอยู่กับซอกคอของตน สองขาขยับก้าวเดินในจังหวะเดียวกัน ย้ายจากกำแพงแข็งและเย็นชืดเป็นเตียงคิงไซส์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง

แผ่นหลังกว้างกระแทกกับผืนเตียงเต็มแรง ไม่มีเวลาให้ร้องโอดโอยเมื่อร่างโปร่งปีนขึ้นมาคร่อมทับตัวเขาเอาไว้ มือขาวรูดเนคไทที่หลุดลุ่ยอยู่ก่อนหน้าออก นิ้วเรียวขาวอีกข้างเปลื้องกระดุมบนสาบเสื้อ เผยแผ่นอกกำยำ ต้นคอแข็งแรงที่มีรอยแดงจ้ำที่บริเวณต้นคอ ซึงชอลกระตุกยิ้มร้าย ละมือที่แหวกเสื้ออีกฝ่ายไปดันคางคนใต้ร่างให้หันหน้าไปอีกทาง

“ยุงที่เวอร์จิเนียคงตัวใหญ่มากนะ คุณว่าอย่างนั้นไหม?” น้ำเสียงทะเล้นขัดกับสีหน้าที่เย็นเยือก แม้ตาคมจะมองไม่ชัด แต่เขาก็สามารถสัมผัสความเย็นเยือกนั้นได้ดีเชียวล่ะ นึกย้อนไปเมื่อสามสิบนาทีก่อนหน้า ในตอนที่ซูนยองเห็นรอยที่ต้นคอ หมอนั่นก็ฟาดด้ามปืนเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างลืมฐานันดร

“ผมถึงโดนซูนยองฟาดน่ะ” มินกยูพูดหน้าตาย นั่นทำให้ซึงชอลถึงบางอ้อ แต่ถึงแม้ว่ามินกยูจะไม่ได้พูด เขาก็พอเดาได้อยู่แล้ว

“หึ..” ซึงชอลกระแทกเสียงหัวเราะ ปลายเล็บจิกเข้าที่ปลายคางคม เรียกเสียงซี๊ดปากจากมินกยูแผ่วเบา

“สงสัยคงต้องรวบบิล” ซึงชอลขยับปากพูด รอยยิ้มร้ายปรากฏ ดวงตาคมสบตากันอย่างไม่คิดหลบ

“ถ้ามันจะทำให้คุณพอใจ ซึงชอล” สิ้นคำตอบ เจ้าของชื่อก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด ใบหน้าหล่อหวานโน้มลงประกบจูบกลีบปากหนารุนแรง ฟันคมขบกัดไปตามกลีบปากอีกฝ่ายจนได้กลิ่นคาวเลือด สองมือดึงรั้งข้อมือแกร่งทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว ลูบไปตามลำแขนแข็งแรงอย่างอ้อยอิ่ง ละมือข้างหนึ่งมากระตุกไทเนื้อดีให้หลุดจากลำคอของคนเบื้องล่าง รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซึงชอล ก่อนเจ้าตัวจะลงมือผูกไทรอบข้อมือแกร่งจนแน่นหนา

“คุณนี่มันแสบเป็นบ้า” ซึงชอลพูดเสียงแผ่ว ปลายนิ้วไล้วนจากแผงอกกำยำขึ้นไปถึงต้นคอแกร่ง สัมผัสเบาหวิววนเวียนอยู่ที่รอบรอยจ้ำอย่างพิจารณา

“มีข้อแก้ตัวดี ๆ สักข้อไหมล่ะ? เผื่อคุณจะได้จ่ายน้อยลง” เสียงทุ้มหวานเอ่ยถาม ปลายเล็บสะกิดที่รอยจ้ำ รอฟังคำตอบคนที่ใช้สายตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของตัวเอง

“ผมเมา” เสียงทุ้มต่ำตอบ คนฟังพ่นลมหายใจ

“ทุเรศชะมัด” ซึงชอลสบถ มือขาวดันปลายคางคมให้เชิดขึ้น ก้มหน้าฝังฟันคมที่รอยต้นเหตุ ออกแรงกัดจนเกิดรอยฟัน ร่างสูงขมวดคิ้วฉับ ความเจ็บแปลบที่ต้นคอทำให้มือที่ถูกพันธนาการบีบเข้าหากัน แต่ถึงอย่างนั้นเสียงสูดปากจากความเจ็บปวดก็ไม่สามารถถูกกักเก็บเอาไว้ได้

กลีบปากสีพีชไล่จูบดูดไปทั่วลำคอแข็งแรง ฝากร่องรอยไว้ทุกจุดที่พาดผ่าน มือกร้านลูบลงต่ำ จากแผงอกแกร่งถึงหน้าท้อง สัมผัสวาบหวิวส่งผลให้ร่างสูงเม้มปาก สีหน้าเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสจากมือขาวทำให้ซึงชอลอดไม่ได้ที่จะฝากฝังรอยกัดอีกสักหนึ่งรอย

“คุณควรจะอยู่ข้างล่างซะบ้าง ดีไหม?” ซึงชอลพูดทั้งรอยยิ้ม ปลายนิ้วแตะเข้าที่กลางลำตัวของอีกฝ่ายที่เริ่มโป่งนูน มินกยูผงกหัวขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายเคร่งเครียด

“งั้นผมคงต้องติดหนี้คุณ” พูดจบ สองมือที่ถูกผูกมัดก็อ้อมมาคล้องคอขาว รั้งอีกฝ่ายลงมาประกบจูบดูดดื่ม กลีบปากหนาขบเม้มรุนแรงอย่างไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว อาศัยจังหวะที่ซึงชอลพลั้งเผลอพลิกร่างให้ตัวเองอยู่ด้านบน ลิ้นร้อนขบดูดกันอย่างร้อนแรงจนน้ำเคลือบใสเลอะไปทั่ว อกขาวกระเพื่อมขึ้นลงยามที่มินกยูผละปากออกไป

“ผมจะทำให้คุณรู้เอง”

“.....”

“ว่าคุณน่ะ ไม่เหมาะหรอกที่จะอยู่ข้างบน” พูดจบ ฟันคมก็งับเข้าที่ปลายปมไท ดึงรั้งให้ปมคลายตัว เพียงแค่กระตุกมืออกจากกัน เนคไทเนื้อดีก็หลุดออกอย่างง่าย

มือหยาบหนาลูบสัมผัสไปทั่วแก้มนิ่ม ดวงตาคมสบจ้องดวงตากลมที่แสนจะดื้อรั้นอย่างเป็นต่อ ก่อนจะเลื่อนมือลงมากระชากเสื้อเชิ้ตของคนใต้ร่างจนขาดวิ่น ไม่ได้สนใจในความราคาแพงหูฉี่ของมัน กลีบปากหนาระดมจูบไปทั่วร่างแน่นเนื้อ รอยจ้ำปรากฏในทุกที่ที่ริมฝีปากหนาลากผ่าน ราวกับเอาคืนจนคนถูกกระทำครางหอบ มือขาวลอบไปปลดเข็มขัดหนังที่รอบเอวสอบอย่างย่ามใจ ดึงรูดออกจากหูกางเกง ก่อนจะม้วนมันเข้าผ่ามือตัวเองจนปลายสายสั้นลงอย่างพอเหมาะ


เพี๊ยะ!
ปลายเข็มขัดฟาดเข้าที่ข้างแก้มกร้าน ใบหน้าคมสะบัดไปตามแรงตบ มินกยูกระตุกยิ้ม มือหยาบหนาล้วงเข้าไปใต้กางเกงอีกฝ่าย บีบเค้นตัวตนที่คับแน่นอันเดอร์แวร์จนซึงชอลหลุดคราง

“อ้า..!” ไม่เว้นจังหวะให้ร่างขาวได้หายใจ มินกยูชักมือออกมาจัดการปลดเปลื้องอาภรของอีกฝ่าย ในตอนนี้มีเพียงร่างกายเปลือยเปล่าปรากฏแก่สายตาคม มือหนาจับยึดอาวุธของคนเบื้องล่าง บีบเค้นจนคนถูกกระทำหายใจขาดห้วง รั้งรูดมันอย่างรุนแรงจนแข็งชันสู้มือ

“มาไวอะไรขนาดนี้ครับ หื้ม?” เอ่ยถามเสียงทะเล้น มินกยูยกยิ้มเจ้าเล่ห์ บีบคลึงอาวุธของร่างขาวอย่างมันมือ ใบหน้าขุ่นมัวปนอึดอัดของซึงชอลยิ่งทำให้คนมองรู้สึกพอใจ มือหนาสาวขึ้นลง ขัดอาวุธที่กลางลำตัวของอีกฝ่ายจนเล็บบางจิกลงที่บ่าแกร่ง เรียวขาอ้ากว้างอย่างลืมตัว กายขาวกระตุกรุนแรงพร้อมกับจังหวะผ่อนลมหายใจที่หนักหน่วงขึ้น

“อึ้ก...อ่ะ....ปล...ปล่อย...อื๊อ!” เสียงทุ้มหวานครางไม่ได้ศัพท์ สวนสะโพกอวบเข้าหาฝ่ามือหนาอย่างเสียสติ มินกยูรีบเร่งจังหวะที่ฝ่ามือ ก่อนเสียงครางยาวจะดังออกมาจากลำคอของซึงชอลพร้อมความเปียกแฉะที่ฝ่ามือของมินกยู

ร่างขาวสูดลมหายใจยังไม่ทันเต็มปอดดีก็ต้องกลั้นหายใจเฮือก เมื่อปลายนิ้วเรียวยาวที่มีสิ่งหล่อลื่นได้สอดเข้าที่ช่องทางด้านหลัง ซึงชอลขบกัดริมฝีปากล่างอย่างเก็บกลั้น ความเจ็บแปลบระคนเสียวซ่านได้เข้ามาทักทายอย่างไม่ทันตั้งตัว

มินกยูชักนิ้วเข้าออกให้ช่องทางคลายความฝืดเคือง มืออีกข้างปลดกางเกงสแล็คของตัวเองออกอย่างลวก ๆ ไปพร้อมกับอันเดอร์แวร์ ก่อนจะเลื่อนมือหนากลับมาขัดอาวุธของตัวเองให้พร้อมใช้งาน นิ้วเรียวสีช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังไม่ทันได้ขยายตัวดีนักแต่เจ้าตัวก็ชักนิ้วออก ปล่อยอาวุธที่พร้อมใช้งานเข้าปากถ้ำอย่างรุนแรง ความคับแน่นและแรงบีบรัดจากอีกฝ่ายทำให้เจ้าตัวกัดฟัน ตาคมมองคนข้างใต้ที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น

“ปืนผมยิงรัวกว่าสไนเปอร์อีกนะ” พูดจบ มินกยูก็ลั่นไกใส่ช่องทางถี่รัว เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึงชอลหลับตาปี๋ให้กับความเสียวซ่านระคนเจ็บระบมที่ทำให้หัวใจเต้นรัว ฟันขาวขบริมฝีปากจนแตกซิบ รสเลือดคาวคลุ้งไปทั่วโพรงปาก

“อ๊ะ....อื้อ...กระ....จอก...” อดที่จะแขวะอีกฝ่ายไม่ได้ มือขาวตวัดสายเข็มขัดในมือไปที่หลังคอหนา กระชับปลายสายอีกข้างก่อนจะรั้งใบหน้าอีกฝ่ายให้ลงมาหาตน สายตาท้าทายถูกส่งไปให้คนที่อยู่ด้านบน สะโพกอวบเด้งสวนสู้แรงกระแทกจากสะโพกสอบ เสียงครางดังลอดไรฟันจนรู้สึกแสบคอ ยามที่ปลายอาวุธขยี้ที่จุดกระสันของตัวเองเข้าเต็มแรง

“แต่ทำหน้าเอ็กซ์ใส่แบบนี้น่ะเหรอ?...อ..อื้ม...” มินกยูพูดเสียงต่ำ ครางในลำคอเมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาจูบปิดปาก บทจูบร้อนแรงไม่ได้น้อยไปกว่าร่างกายส่วนล่างที่กำลังต่อสู้กัน ยิ่งรุนแรง ยิ่งถึงใจมากขึ้นเท่านั้น

ซึงชอลหอบเฮือกตอนที่ผละริมฝีปากออกมา มือหนาจับต้นขาขาวให้อ้ากว้างขึ้น รัวยิงใส่ช่องทางจนเสียงครางจากร่างขาวดังกลบเสียงลั่นของเตียงนอน ช่องทางบีบรัดสลับคลายออกเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังใกล้ถึงจุดเต็มที

“อ่ะ...อา....อือ....อึ้ก!” เสียงทุ้มหวานครางเครือ เมื่อจุดกระสันโดนกระแทกถี่รัวจนเรียวขาเริ่มสั่น หยาดน้ำใสเกาะที่ขอบตา ฟันคมขาวขบกัดที่เข็มขัดหนังในมืออย่างหาที่ระบาย ทุกการกระทำถูกฉายชัดในสายตาของมินกยู สติอันน้อยนิดถูกลิดรอนจนพร่ามัว ใบหน้าคมก้มซุกเข้าที่ซอกหูนิ่ม กลีบปากหนากดจูบลงบนใบหูขาว

“อื้ม...พร้อมไหมครับบอส...?...” มินกยูถามเสียงกระเส่า รอยยิ้มร้ายที่ซึงชอลไม่สามารถมองเห็นได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคม ร่างสูงชักปืนออกอย่างเอื่อยช้าก่อนจะยิงเข้าใส่อย่างรุนแรง ทำอยู่เช่นนั้น จนกายขาวกระตุก ก่อนที่เสียงครางเฮือกสุดท้ายจะหลุดออกจากลำคอขาวเนียน


อ้า!!


พร้อมกับกระสุนที่ฝังเข้ากับเป้ายิงอย่างแม่นยำ






NICE SHOT!




*กลับไปเม้นกันหน่อยนะค้า


วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

(CUT) FWB - WONSOON




แสงไฟสลัวในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางยิ่งทำให้บรรยากาศร้อนแรงมากขึ้น ตาเรียวคมจ้องมองดวงตาเฉี่ยวชี้เป็นเวลาสิบนาฬิกาสิบนาทีอย่างไม่วางตา ความร้อนแรงชวนให้จมดิ่งไปกับกามอารมณ์ทำให้อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากของตัวเองลงที่อวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย ซูนยองตอบรับสัมผัสโดยทันที กลีบปากสองคู่เคล้าคลอกันอย่างเอื่อยช้า ทว่าล้ำลึกชวนให้เคลิ้มฝัน มือหนาแยกสาบเสื้อที่ถูกปลดกระดุมครบทุกเม็ดของร่างข้างใต้ ใช้ปลายนิ้วสะกิดทักทายที่ยอดอกสีอ่อน เรียกเสียงครางอื้ออึงจากลำคอขาวผ่องได้เป็นอย่างดี

กลีบปากเรียวบางทอดถอนออกมา ดวงตาคมไล่มองผิวกายขาวละเอียดที่ตัดกับสีเสื้อ ราวกับกลืนกินอีกฝ่ายไปแล้วทั้งตัว ซูนยองขยับยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้อีกฝ่ายต้องกลับมามองตาเขาอีกครั้ง

“อยากอยู่ข้างล่างดูบ้างไหม?” ซูนยองถามติดตลก แต่วอนอูทำไมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจังอยู่พอตัวเลยล่ะ

“ฝันเถอะ” ตอบกลับอย่างไม่คิด มือหนาเลื่อนต่ำไปที่ขอบกางเกงหนังสีดำสนิท ปลดกระดุมทั้งรูดซิบลงแล้วสอดมือเข้าไปใต้อันเดอร์แวร์พอดีตัวของอีกฝ่าย สัมผัสตัวตนที่ร้อนระอุภายในนั้นให้อีกฝ่ายได้ซี๊ดปาก ในตอนนี้เองที่มือของซูนยองก็ไม่สามารถอยู่อย่างเป็นสุขได้อีกแล้ว

มือขาวเลื้อยไปตามไหล่กว้าง ข้างหนึ่งเลื้อยขึ้นสูงไปจิกทึ้งกลุ่มผมของอีกฝ่าย อีกมือหนึ่งเลื้อยลงต่ำ ปลดกระดุมตรงสาบเสื้อให้มันแยกออกจากกัน มองแผงอกที่มีกล้ามเนื้อแต่พอดี ไม่ต่างกันกับเขาที่เพิ่งจะมีมันเมื่อไม่นานมานี้

ซูนยองยกสะโพกขึ้น เมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งกางเกงให้หลุดออกจากร่างกายของตน ตามด้วยอันเดอร์แวร์พอดีตัว โดยที่เขาก็ถอดเสื้อของอีกฝ่ายออกบ้าง แสงไฟอมส้มที่ส่องกระทบผิวกายของคนด้านบนนั้นทำให้ซูนยองนึกชื่นชมมันอยู่ในใจ ยิ่งสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกมาในยามนี้ด้วยแล้ว


โคตรอีโรติค


วอนอูโน้มหน้าลงไปซุกที่ซอกคอขาว กดจูบสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่าย เมินกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ไม่คุ้นชินไป เพราะเขาไม่ได้มีสิทธิ์ในคิดในเรื่องนี้ ริมฝีปากพรมจูบไปตามเนินเนื้อขาวเนียนเรียกเสียงครางอย่างพอใจจากอีกฝ่าย มือที่กอบกุมตัวตนของซูนยองเริ่มขยับขึ้นลงให้มันมีการตอบสนอง พอกันกับที่ซูนยองได้ส่งมือมาทักทายตัวตนของเขาที่อยู่ภายใต้กางเกงจนมันเริ่มจะแข็งชัน

กลีบปากเคลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดแวะที่ยอดอกสีอ่อน ดูดดุนขบกัดจนอกแน่นเนื้อแอ่นเข้าหาเรียวลิ้นของเขา ดูดดื่มข้างหนึ่งจนพอใจก่อนจะย้ายไปอีกข้าง ปฏิบัติกับมันไม่ต่างกันจนรู้สึกถึงแรงทึ้งบนศีรษะตัวเอง วอนอูลอบยิ้ม ก่อนจะย้ายริมฝีปากลงในจุดที่ต่ำลง เรียวลิ้นลากผ่านหน้าท้องเนียน แอ่งสะดือ จนมาถึงต้นขาขาว

“อ..อือ..วอนอู..”

“อืม...”

เสียงครางแผ่วดังสลับกันระหว่างเขาสองคน นิ้วเรียวถูกส่งของปากของตัวเอง ดูดดุนมันจนเปียกชุ่ม ก่อนจะส่งมันไปทักทายที่ช่องทางด้านหลัง ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับปากทาง ตัวตนของซูนยองก็ถูกโอบอุ้มด้วยโพรงปากร้อนของวอนอูโดยทันที

“อื้ออ..อะ...อา....” เสียงครางแหบพร่าหลุดจากกลีบปากที่บวมตุ่ย สองขาเรียวแยกออกจากกันอย่างเผลอไผล เปิดทางให้ร่างสูงได้แนบชิดกับร่างกายของตัวเองมากขึ้น

นิ้วเรียวยาวสอดเข้าช่องทางอย่างเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไป กลีบปากที่ครอบครองตัวตนของอีกฝ่ายขยับขึ้นลงรุนแรงขึ้นเพื่อดึงความสนใจ หูได้ยินเสียงครางอย่างทรมานของซูนยอง ร่างขาวบิดเร่าในยามที่นิ้วเรียวสามารถสอดเข้าไปได้จนมิด แถมนิ้วเรียวอีกข้างของร่างสูงได้ส่งมาบดบี้ที่ยอดอกของเขาอย่างไม่ปราณี

“อ๊ะ!....อื้อ....อือ...” ในความทรมานที่มีแต่ความพึงใจของซูนยองทำให้วอนอูพอใจเช่นกัน เพราะเขาไม่มีวันยอมที่จะได้ยินอีกฝ่ายด่าเขาว่า ห่วย อย่างแน่นอน

“แน่นดี เหมือนได้เปิดซิงนายทุกรอบเลยนะ” เสียงทุ้มต่ำพูดประโยคลามกอย่างหน้าตาเฉย หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากตัวตนของอีกคน มุมปากยกยิ้มเมื่อเรียวนิ้วของเขาถูกช่องทางอีกฝ่ายรัดแน่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามเบิกทางให้มันกว้างขึ้นโดยส่งนิ้วที่สองและที่สามตามเข้าไป

ความร้อนเหมือนมากองอยู่ที่หน้าของซูนยอง ไม่รู้ว่าเพราะกามอารมณ์ที่ประทุในร่างกายของเขาในตอนนี้หรือเพราะคำพูดคำจาของอีกฝ่ายกันแน่ เพราะตอนนี้สติเขาชักจะเริ่มขาวโพลนไปหมดแล้ว ความสนใจหยุดอยู่ที่ความเสียวซ่านที่ทำให้เขาครางไม่ได้ศัพท์มากขึ้นทุกที

“อะ...อา....ซะที...เถอะน่า” ซูนยองครางหอบ เอ่ยบอกอีกฝ่ายให้หยุดลีลาเสียที ในเมื่อตอนนี้แค่นิ้วมันชักจะไม่พอเสียแล้ว

วอนอูไม่ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่เอื้อมมือไปล้วงซองฟอยล์ที่อยู่กระเป๋าหลังออกมาคาบไว้ที่ปาก มือข้างเดิมขยับรั้งรูดตัวตนของตัวเองให้เข้าที่ ฟันคมงับเข้าที่รอยประที่ขอบซอง ใช้มือฉีกจนซองเปิดออก เขาดึงห่วงทรงกลมไปครอบที่ส่วนปลายมน รูดห่วงเข้าหาตัวจนสุดทางให้รู้สึกว่าตัวตนถูกครอบคลุม นิ้วเรียวทั้งสามถูกถอนออกจากช่องทางจนซูนยองรู้สึกวูบโหวง

มือหนาดึงขอบกางเกงตัวเองให้หล่นไปอยู่บริเวณหน้าขา จับอีกฝ่ายพลิกนอนคว่ำ มือข้างหนึ่งประคองตัวตนของตัวเองไว้จนส่วนปลายสัมผัสกับก้อนเนื้อกลมกลึง มืออีกข้างแหวกทางจนเผยช่องทางที่เต้นตุบ วอนอูกดส่วนหัวของตัวเองเข้าช่องทาง เพียงแค่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงซี๊ดปากจากซูนยอง

ความคับแน่นร้อนผ่าวโอบอุ้มตัวตนของวอนอูจนเจ้าตัวต้องกัดฟัน หลังจากที่แทรกกายเข้ามาได้จนสุด ความปวดหนึบถามหาจนเขาต้องขยับกายเชื่องช้าเป็นการผ่อนคลาย เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ มือหนาสองข้างล็อกเข้าที่เอวคอด จับยึดเอาไว้เช่นนั้น ก่อนจะสวนกายเข้าหาในจังหวะเนิบช้าและเร่งเครื่องขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงครางกับช่องทางที่ตอดรัดจากร่างขาวตรงหน้าทำให้เขาสติขาดผึง

“อื้ม...อือ...ซี๊ดด...ว...วอน...อู....”

“อืม...แน่น...เป็นบ้า...”

อดไม่ได้ที่จะฟาดฝ่ามือลงที่เนินเนื้อขาวกลม ยามที่มันขึ้นรอยแดงจากฝีมือของเขาเอง วอนอูยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น มือบีบเฟ้นสะโพกขาวจนขึ้นรอยช้ำ แรงกระแทกยังคงรุนแรงไม่มีตกจนร่างขาวข้างใต้หัวสั่นหัวคลอน จนสุดท้าย สองมือที่เคยยันพื้นก็ไถลลง ใบหน้าเรื่อแดงแนบซบกับท่อนแขนของตนพลางครางอู้อี้อยู่ตรงนั้น

มือหนาเลื่อนมือลูบไปตามไขสันหลังชื้นเหงื่อ เรียกเสียงครางจากร่างขาวได้ดังขึ้นอีก วอนอูหยุดมือตัวเองที่ไหล่ลาด โน้มตัวซ้อนหลังซูนยอง จมูกโด่งสูดดมไปทั่วหลังคอผสานกับแรงอารมณ์ที่ยังคงรุนแรงและไม่มีท่าทีจะตกลง

“อันที่จริง...เป็นอย่างที่นายว่า...อืม..ก็ดี..” ปากเรียวบางพูดเสียงพร่าที่ข้างหูนิ่ม ประโยคกำกวมทำให้ซูนยองขมวดคิ้ว ทั้งงงทั้งเสียวปะปนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มีสติที่จะถามอีกฝ่ายกลับ กามอารมณ์พุ่งสูงจนหูตาพร่าเบลอ ก่อนมันจะดับมืดเมื่ออีกฝ่ายหยุดขยับกายกลางคัน

“อื้อ!...” ซูนยองครางอย่างขัดใจ คิ้วเรียวขมวดฉับ ก่อนที่ท่อนแขนแข็งแรงจะกอดรัดรอบเอวคอดแน่น ฉุดรั้งให้แผ่นหลังขาวเนียนแนบแผ่นอกของตัวเอง ขยับกายลงนั่งกับพื้นไม้เย็นชืด โดยที่มีซูนยองนั่งทับตัก ตัวตนที่แทรกลึกขึ้นทำให้อีกฝ่ายกัดปากแน่น สีหน้าเร้าอารมณ์ที่ดวงตาเรียวคมมองผ่านกระจกส่งผลให้สะโพกสอบกระทุ้งกายขึ้นให้ซูนยองครางเฮือก

“ฉันอยู่ข้างล่างให้นายแล้วนะ” วอนอูพูด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หาดูได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวชี้จ้องเพื่อนสนิทของตนผ่านกระจก เม้มปากจนเป็นเส้นตรง เมื่อการอยู่ข้างล่างของวอนอูมันห่างไกลจากความหมายของเขาไปมากโข และดูก็รับรู้ได้เลยว่า


วอนอูตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น


“เอาสิ ลองดู” เสียงทุ้มต่ำดังที่ข้างหู ก่อนที่ฟันคมจะงับมันแผ่วเบา ฝ่ามือหนาเลื่อนมากอบกุมตัวตนของคนบนตัก ขยับมันขึ้นลงจนเสียงหอบครางที่หายไปชั่วครู่กลับมาอีกครั้ง

“เร็วสิ...” วอนอูยังไม่เลิกแหย่พอกันกับความร้อนจากฝ่ามือที่ยังให้ความอบอุ่นกับตัวตนของซูนยอง ฟันคมงับกลีบปากบวมช้ำของตัวเองแน่นอย่างชั่งใจ


ให้ตายเถอะ ก็ไม่เคยนี่หว่า


แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาได้มีเวลาคิดนานมากนัก เมื่อมือหนาเร่งจังหวะรั้งรูดตัวตนที่แข็งชัน ความขาวโพลนกัดกินสติของซูนยองให้พร่าเลือนอีกครั้ง ช่องทางบีบรัดแน่นกว่าปกติเป็นสัญญาณว่าซูนยองใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที วอนอูยกยิ้มร้าย ก่อนที่ปลายนิ้วหัวแม่โป้งจะเลื่อนไปกดที่ส่วนปลายของความแข็งชันของคนบนตัก ซูนยองหอบขาดห้วง ความทรมานฉายชัดบนใบหน้าและวอนอูกำลังบีบให้เขาทำอย่างไม่มีทางเลือก

ดวงตาเรียวชี้มองผ่านกระจกไปถึงคนที่นั่งซ้อนหลังอย่างค่อนขอด ผิดกับการกระทำที่เรียวขาขาวอ้ากว้าง สะโพกมนยกขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวลงเนิบช้า เป็นอยู่เช่นนั้นได้เพียงชั่วครู่ เมื่อปลายหยักที่มีพลาสติกกั้นกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง สติของซูนยองถูกพรากไปอีกครั้งอย่างสมบูรณ์

“อะ...อ๊า...อื้อ....อา....!” เสียงทุ้มหวานครางไม่ขาดปาก เสียงหน้าขากระทบสะโพกมนดังพั่บอย่างจับจังหวะไม่ได้ เมื่อซูนยองโถมกายลงมาอย่างบ้าคลั่ง กายขาวเอนเอียงอย่างสูญเสียสมดุล จนมือหนาต้องยื่นมือออกไปประสานนิ้วกับร่างบนตัก พยุงร่างกายของเพื่อนสนิทไม่ให้ล้มลง

“อืมดี...ดีมาก...ซูนยอง...” วอนอูครางต่ำ กดจูบเข้าที่ซอกคอขาวนุ่ม ไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เพียงแต่ต้องการระบายความกระสันของตัวเองก็เท่านั้น

สะโพกสอบเด้งสวนในจังหวะที่สะโพกมนกระแทกกายลงมา ส่วนปลายภายในช่องทางร้อนกระแทกจุดกระสันเข้าเต็มแรง ซูนยองครางลั่น มือขาวอีกข้างที่เคยค้ำยันพื้นเอาไว้ยกขึ้นมาปัดมือหนาที่ปิดกั้นการปลดปล่อยของตัวเองทิ้ง


ซูนยองทนไม่ไหวอีกแล้ว


ช่องทางร้อนบีบตัวแน่น สะโพกมนบดกายกับตัวตนที่แข็งชันภายใน ร่อนสะโพกถี่รัว ความเสียวกระสันตีรวนไปทั่วร่าง วอนอูเผลอฝังริมฝีปากที่ต้นแขนขาว ขบกัดจนขึ้นรอยในจังหวะที่ซูนยองครางยาวเป็นครั้งสุดท้าย ความเปียกชื้นที่ฝ่ามือหนาและความเปียกแฉะในพลาสติกที่ห่อหุ้มตัวตนของวอนอูเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในวินาทีถัดมา

“แฮ่ก/แฮ่ก..”



และมีเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังสลับกันระหว่างคนสองคนในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลาง




*มีต่อที่เด็กดีนะคะ