วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

(CUT) HIT ME - MINCOUPS



           “อะ..อื้อ..” เสียงทุ้มหวานครางแผ่ว ใบหน้าหวานเชิดขึ้น ดวงตาหลับพริ้ม สติเริ่มเลือนหายเข้าไปทุกที เมื่ออีกฝ่ายกำลังปรนเปรอเขาอ่อนโยน มือขาวเลื่อนไปทึ้งกลุ่มผมหนา เมื่อความอุ่นร้อนกำลังครอบครองอยู่ที่กลางลำตัว เกลียวลิ้นไล้เลียมันจนเปียกชื้น ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วสรรพางค์กายทำให้สะโพกมนต้องพึ่งพาขอบอ่างล้างมือ
  
          “ผมอยากให้คุณเห็นหน้าตัวเองจริงๆ” เสียงทุ้มต่ำพูด หลังจากที่ผละริมฝีปากออกมาจากกลางลำตัวของคนตัวเล็ก ร่างสูงลุกขึ้น จับอีกฝ่ายหันหน้าเข้าหากระจก สะท้อนให้เห็นภาพเขาสองคนยืนซ้อนกัน

            แขนแกร่งโอบรัดเข้าที่รอบเอวคอด รั้งเข้ามาใกล้ สองสายตาสบประสานกันในกระจก ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายละสายตาหวานนั่นก่อน เพราะซอกคอหอมของคนตรงหน้ากำลังเรียกร้องเขา จมูกโด่งซุกไซร้เข้าที่ซอกคอชื้นน้ำ พวกเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นั่นยิ่งทำให้กลิ่นของคนตัวขาวยิ่งหอมมากขึ้นไปอีก

            มือหนาอีกข้างลูบไล้ไปทั่วร่างกายนุ่มนิ่ม มินกยูได้ยินเสียงครางอื้ออึงจากคนในอ้อมกอด เขาลอบยิ้ม เงยหน้าขึ้นมองอีกคนผ่านกระจกอีกครั้ง พร้อมกดริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่ซอกคอขาว ซึงชอลปรือตามองเขา ด้วยสายตาที่ปลุกปั่นสัญชาตญานดิบของเขาได้ดีเหลือเกิน

            “อ๊ะ!...” ซึงชอลครางเฮือก กายขาวกระตุก เพราะฟันคมได้ฝังเข้าที่เนินไหล่ให้รู้สึกแสบๆ คันๆ กลีบปากชมพูกำลังอ้าจะพูดแต่ก็ไม่ได้สิทธิ์นั้น เมื่อมินกยูส่งนิ้วเรียวเข้ามาในโพรงปากร้อนจนแน่นคับปาก

            “ช่วยกันหน่อยนะครับคนดี” เสียงทุ้มต่ำพูดพร่าที่ข้างหูนิ่ม พรมจูบให้พอรู้สึกกระสันซ่าน ฟันคมแกล้งขบนิ้วแกร่งแรงๆ ไปทีหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดุนให้อย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความต้องการอยู่เหนือการควบคุม สายตาคมมองอย่างพึงพอใจ

            “อึก...อื้อ..” เสียงทุ้มหวานครางอู้อี้ นิ้วแกร่งขยับเข้าออกในปากเขาอย่างเอาแต่ใจ สายตาร้ายกาจจากคนด้านหลังทำให้คนตัวขาวยิ่งรู้สึกร้อนวูบวาบ

            “ดูคุณสิ...” ร่างสูงเอ่ย มืออีกข้างเชยค้างมนให้เริดหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจกเงา

            “....”

            “เซ็กซี่เป็นบ้า” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วไปด้วยความหลงใหล นิ้วแกร่งที่เปียกชุ่มถูกดึงออกไม่บอกกล่าว ส่งผลให้ร่างเล็กครางฮือ ก่อนความรู้สึกแน่นเสียดจะถาโถมเข้ามาเมื่อนิ้วแกร่งถูกแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังจนสุดข้อ

            “อ๊ะ!...อือ...จ...เจ็บ” เสียงทุ้มหวานพูดขาดห้วง สองมือบีบขอบอ่างล้างมือแน่น ระบายความเจ็บเสียดจากช่องทางคับแคบ สีหน้าทรมานของซึงชอลยิ่งกระตุ้นความต้องการของมินกยูให้อยากกระทำอะไรๆ ที่มันมากกว่านิ้วของเขา

            “ที่รัก ผ่อนคลายสิครับ” ร่างสูงเกลี้ยกล่อม แกนนิ้วเริ่มขยับเข้าออกเพื่อสร้างความคุ้นชิน จากนิ้วเดียวเป็นสอง จากสองเริ่มเป็นสาม ต้นขาข้างหนึ่งถูกดันให้เกยที่ขอบอ่างเพื่อเปิดทางให้สะดวกมากขึ้น มือขาวเลื่อนไปค้ำกำแพงข้างกระจก เสียงหอบหนักผสานเสียงครางยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องน้ำยิ่งดูจะเร่าร้อนมากขึ้นไปทุกที

            มินกยูถอนนิ้วออกมารั้งรูดที่ส่วนกลางตัวเองเพื่อเตรียมพร้อม ก่อนจะจับให้ปลายมนเสียดสีกับช่องทางคับแคบที่กำลังเต้นตุบ และเพียงเสี้ยววินาที ช่องทางร้อนก็โอบอุ้มมันเข้าไปทั้งหมดจนรู้สึกแน่นเสียด

            “อ๊า!...อะ....อื้อ” ร่างขาวสะดุ้ง เมื่อคนด้านหลังสวนกายเข้ามาอย่างไม่ปรานีเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาหวานตวัดมองผ่านกระจกอย่างเคืองๆ ร่างสูงยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกเพื่อคลายความปวดหนึบของตน ใบหน้าหวานเอี้ยวลงไปซบกับท่อนแขนตัวเอง

            สองมือแกร่งจับหมับเข้าที่สะโพกอวบ โดยที่ร่างสูงเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เมื่อรู้สึกถึงความคลายตัวของช่องทาง ร่างขาวทั้งร่างโยกไปกระทบขอบอ่าง เสียงเสียดสีของเนินเนื้อกับอ่างเซรามิคดังคลอไปกับเสียงหน้าขาแกร่งกระทบสะโพกแน่นเนื้อ

            “ผมควรจะโกรธคุณนะ” เสียงทุ้มพูดปนหอบขึ้นมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย ช่วงล่างก็ยังคงทำงานได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง

            “อ๊ะ..อ่ะ..อื้อ...อะ...ไร” เสียงทุ้มหวานเอ่ยสะดุด พลางมืออีกข้างเอื้อมไปดันเอวสอบค้านแรงกระทำให้ช้าลงอีกหน่อย

            “อื้ม...คุณ..ไม่ควรตามผมไป” แต่มือขาวก็ถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี หนำซ้ำสะโพกหนายังโถมเข้าหาแรงขึ้นไปอีก

            “อ๊า...บะ...เบา...อื้อ...!

            “เด็กดื้อ...”

            “..อ๊า...อ๊ะ...ม..มินกยู...”

            “พรุ่งนี้ผมจะไม่ให้คุณเดินแน่ๆ” สิ้นคำ สติที่พร่าเลือนของคนตัวขาวก็ถูกพรากไปทันที เมื่อคนที่ยืนซ้อนหลังกระแทกสะโพกเข้าหาถี่รัว ส่วนปลายบดขยี้จุดกระสันซ้ำไปซ้ำมาทำให้เขาร้องครางจนเสียงแหบ ความปวดระบมแล่นริ้วเข้าที่ส่วนสะโพก จนต้องส่งมืออีกข้างไปข่วนที่ต้นขาแกร่ง

            “อื้อ...มะ...ไม่ไหว..” เสียงทุ้มหวานพูดขึ้น ตากลมหลับแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเสียวซ่านระคนความเจ็บ ร่างสูงรอให้ร่างขาวพูดต่อ

            “ย..ยอมแล้ว...”

            “.....”

            “..ไป...ที่เตียง...อื้อ...นะ” มินกยูไม่พูดอะไรให้มากความ ร่างสูงถอนกายออกพรวดเดียวจนร่างขาวรู้สึกวูบโหวง จับอีกคนพลิกตัวเข้าหาแล้วอุ้มขึ้นเอว โดยให้ร่างกายเชื่อมเข้าหากันอีกครั้ง ขาแกร่งเดินผ่านกองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วห้องน้ำ ข้ามผ่านกรอบประตูไปสู่เตียงนอนหลังใหญ่ที่กลางห้อง โดยมีเสียงครางเครือดังคลอที่ข้างหูตลอดเวลา

            แผ่นหลังเนียนกระแทกกับฟูกเตียงไม่เบานัก แต่ซึงชอลก็ไม่มีโอกาสจะได้ใส่ใจในจุดนั้น เมื่อกายหนาสานต่อกิจกรรมที่คั่งค้างอย่างหน้ามืดตามัว สองแขนถูกยกขึ้นไปโอบรอบคอแกร่ง โน้มให้อีกฝ่ายก้มลงซุกที่ซอกคอของตัวเอง

            “ผมห่วงคุณ มากกว่าที่คุณห่วงผมซะอีกซึงชอล” น้ำเสียงอบอุ่นดังอู้อี้อยู่ที่ซอกคอ ร่างขาวได้ยินทุกคำแต่ไม่ชัดมากนัก สติเขาถูกลิดรอนไปตามกามอารมณ์ที่พุ่งสูง คำตอบรับมีแต่เสียงหวีดครางอย่างสุขสม เมื่อจุดศูนย์รวมความรู้สึกของเขาถูกอีกฝ่ายบดขยี้มันอย่างไม่บันยะบันยัง

            สองมือที่โอบกอดอีกฝ่ายปัดป่ายไปมา ก่อนเล็บบางจะฝังลงบนแผ่นหลังแข็งแรงและลากยาวจนขึ้นรอย เพื่อระบายความเสียวซ่านที่ทำให้ซึงชอลรู้สึกเหมือนจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ช่องทางบีบตัวแน่นจนกายแกร่งปวดหนึบ

            “..จะ...แล้ว...ม..มิน...อ๊ะ!...” เสียงทุ้มหวานกระท่อนกระแท่น กายขาวโยกไถไปฟูกนิ่มอย่างรุนแรง เมื่ออีกฝ่ายโถมตัวเข้าหาแรงขึ้นจนได้ยินเสียงหัวเตียงกระแทกกำแพง


            มือหนากอบกุมเข้าที่กลางลำตัวของอีกฝ่าย รั้งรูดอย่างหนักหน่วงไปพร้อมๆกับสะโพกสอบที่เร่งจังหวะเมื่อถึงโค้งสุดท้าย ก่อนที่มือหนาจะเปียกชื้นและในขณะเดียวกันที่ช่องทางแคบถูกเติมเต็มไปด้วยความอุ่นจนร้อนวูบไปทั่วท้อง เสียงหอบหนักดังคลอกันในห้องนอนกว้าง พร้อมกับสัมผัสนิ่มหยุ่นที่เกิดขึ้นที่ข้างขมับชื้นเหงื่อของคนที่ถูกสวมกอดจากคนด้านบน




*กลับไปเม้นกันด้วยนะคะ 





วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

(CUT) WHITE SHIRT - MINCOUPS






CUT

            “พี่นี่มันจริงๆเลย” เสียงทุ้มเอ่ยเอ็ดอย่างไม่จริงจัง ในระหว่างที่ปากว่ามือก็ทำหน้าที่ไปด้วยอย่างดีด้วยการปลดกระดุมเสื้อจนหมด ตามด้วยริมฝีปากนิ่มหยุ่นแนบนาบไปทั่วทุกอณูผิวกาย ลิ้นร้อนไล้เล็มชิมคราบนมที่เลอะอยู่ที่ต้นคอ ฟันคมขบกัดจนขึ้นสีแสดงความเป็นเจ้าของไม่ต่างกันกับที่อีกฝ่ายทำให้เขา ใบหน้าหล่อคมผละออกมา สายตาร้อนแรงจ้องตั้งแต่ลำคอจนมาถึงต้นขาอ่อน มือแกร่งแยกสาบเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งออกจากกันเผยให้เห็นกางเกงชั้นในสีดำตรงกลางลำตัว  จากที่เป็นฝ่ายแกล้งเขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำกลับบ้าง ขาขาวถูกยกขึ้นสีกันเพื่อหนีสายตาคมคายของใครอีกคน

                “เขินแล้วน่ารักนะ” เสียงทุ้มขยับปากพูดไปพร้อมๆกับมือสากที่บรรจงลูบไปตามเนื้อนิ่มไปทุกสัดส่วนจนคนถูกสัมผัสหน้าเรื่อแดง

                “......”

                “รู้ตัวบ้างหรือเปล่า”  สิ้นคำถาม ฝ่ามือนิ่มๆก็ฟาดเข้าที่ต้นแขนแกร่งอย่างแรง สีหน้าท่าทางฮึดฮัดยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากร่างสูงไปได้อีกเป็นกอง ความง่วงแลดูจะหายไปเสียหมดเมื่อได้หยอกล้อคนตรงหน้า

                “พูดมาก...” ร่างขาวเอ่ยเสียงขุ่น ก่อนจะชันตัวขึ้นมาโอบรอบคอแกร่งและจ้องตาคมอยู่อย่างนั้น

                “หืม...” ตาคมเลิกคิ้วมอง

                “กินข้าวไม่อิ่มเลย...” เสียงทุ้มหวานว่าเช่นนั้นก่อนจะผลักอีกฝ่ายออกไปพร้อมทั้งทิ้งตัวลงยืนบนพื้นเต็มความสูง มือขาวจับร่างสูงให้ยืนสลับที่กันกับตนเอง ดันให้อีกคนทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะและตัวเองก็ลงไปนั่งคุกเข่า กลีบปากอิ่มพรมจูบไปตามกลางลำตัวที่กำลังตื่นตัวของคนตรงหน้าท่ามกลางสายตาคมที่มองมา

                “.....”

                “...กินหน่อยนะ” และไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ มือขาวจัดแจงปลดกางเกงนอนตัวเก่งของอีกคนออกโดยทันที ปากอิ่มเคลื่อนเข้าไปพรมจูบอาหารเช้าตรงหน้าอย่างรักใคร่ก่อนจะส่งมันเข้าปากแล้วดูดดุนราวกับละเลียดในรสชาติ มือที่ว่างถูกยกขึ้นประคองในส่วนที่ริมฝีปากไปไม่ถึงและบีบคลึงจนสัมผัสได้ถึงแรงทึ้งบนศีรษะ เสียงครางฮึมดังในลำคอยิ่งกระตุ้นให้คนเบื้องล่างพอใจ กลีบปากขยับรั้งรูดสลับดูดเม้มที่ส่วนปลายจนคนถูกปรนเปรอสติขาวโพลนจนต้องสวนสะโพกเข้าหา จนมาถึงจุดสูงสุดของอารมณ์กลีบปากอิ่มเร่งจังหวะจนคนตัวสูงแตะขอบสวรรค์ ของเหลวสีขุ่นถูกฉีดพ่นเข้าในโพรงปากและคนตัวขาวก็น้อมรับมันอย่างเต็มใจ

                “แฮ่ก...” เสียงหอบหายใจดังขึ้นจากกลีบปากหนา ตาคมหลุบมองคนเบื้องล่างก่อนจะต้องใจกระตุกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเก็บกลืนสิ่งนั้นลงไปจนเกือบหมด ร่างขาวลุกขึ้นยืนอีกหน นิ้วเรียวปาดคราบที่เลอะตรงขอบปากออกมาแล้วป้ายมันลงที่กลีบปากหนาของอีกคนก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นประกบจูบกลีบปากคู่นั้นแนบแน่น แขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งโดยที่สองแขนแข็งแรงก็สวมกอดเข้าที่เอวคอด สัมผัสนุ่มหยุ่นเกิดขึ้นอีกครั้งโดยที่ลิ้นซนแลบออกมาเลียเก็บคราบเลอะจากกลีบปากหนาและสอดลิ้นร้อนเข้าไปโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว ศึกแลกเอนไซม์เกิดขึ้นอย่างดุเดือดและแนบแน่นจนเป็นคนตัวขาวที่ต้องถอยออกไปก่อน

                “ตรงนี้ยังไม่ได้กินเลยนะ” พูดไปพร้อมกับพลิกตัวหันหลังให้สะโพกถูไถกับสิ่งที่เพิ่งสงบไปได้ตื่นขึ้นมาอีกหน ร่างขาวปลิวหวืดตามแรงกระชากของใครอีกคนก่อนที่ทั้งสองแขนจะเท้ากับโต๊ะกินข้าวโดยมีร่างสูงยืนซ้อนข้างหลัง สะโพกอวบโก่งโค้งจนเผยให้เห็นสัดส่วนชัดเจนผ่านชั้นในสีดำ

                “เอาใหญ่เลยนะครับวันนี้” เสียงทุ้มว่าอย่างหมดความอดทน มือแกร่งฟาดลงที่ก้นงอนๆอย่างไม่ขออดทนต่อความน่าขย้ำของคนตรงหน้าอีกต่อไป ร่างขาวสูดปากสูดคอเมื่อได้รับแรงกระทำนั้นไปพร้อมๆกับมือแกร่งที่เลื่อนไปถอดชั้นในที่แสนจะเกะกะออกไปให้พ้นสายตา

                “ไขสือนัก” เสียงทุ้มหวานเอ่ยเอ็ดไปพร้อมกับนิ้วเรียวที่ถูกส่งไปสำรวจช่องทางของตัวเองต่อหน้าเด็กร่างสูง ร่างขาวครางแผ่วกับความอุ่นและตอดรัดของตัวเอง

                “อะไรกันครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามราวกับไม่รู้ข้อเท็จจริงก่อนจะส่งมือไปปัดนิ้วเรียวนั้นให้หลุดออกจากช่องทาง มือแกร่งขยับรั้งรูดส่วนสำคัญให้เตรียมพร้อมและจับมันเข้าไปถูกับช่องทางคับแคบ

                “รู้...อื้อ...อยู่...แก่ใจ” เสียงทุ้มหวานเอ่ยสะดุดกับความอุ่นวาบที่ถูกเสียดสีอยู่ที่ปากทางยิ่งกระตุ้นความต้องการของเขาให้มากขึ้นไปอีกจนต้องร่อนสะโพกประท้วงคนข้างหลัง ร่างสูงหลุดขำก่อนจะป้อนอาหารเช้าให้คนตรงหน้าจนหวีดครางให้กับความคับแน่น ขาทั้งสองข้างสั่นพั่บจนมือแกร่งต้องจับยึดสะโพกอวบกันไม่ให้อีกคนทรุดลงไปกับพื้น

                บทสนทนาทางวาจาจบไปเปลี่ยนการกระทำเสียแทน ความเจ็บเสียดที่ถูกแทนที่ด้วยความกระสันยิ่งส่งผลให้การกระทำนั้นรุนแรงยิ่งขึ้น เสียงกระทบหน้าขาดังลั่นไปทั้งห้องครัวสลับกับเสียงครางอย่างสุขสมของคนสองคน เสื้อเชิ้ตตัวบางหลุดไปวางกองกับพื้นอย่างลวกๆ สะโพกอวบขึ้นรอยแดงจากแรงบีบเคล้นจากมือหนาเป็นจ้ำๆ

                “ผม...อา...อยากรู้” เสียงทุ้มเอ่ยพร่าและกระท่อนกระแท่นจากแรงขยับกายด้วยจังหวะรัวเร็วจนคนรับแรงกระแทกหัวสั่นหัวคลอน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสติมาขานรับคำของเขา

                “อือ...อ๊ะ..อะ..อะไร” สิ้นคำถาม จากแรงกระแทกที่รุนแรงก็แผ่วลงจนนิ่งสนิทและแปรเปลี่ยนเป็นแรงหมุนควงสะโพกจนคนผิวขาวแทบยืนไม่ติดพื้น

                “ผมอยากรู้...”

                “อ๊ะ..อ๊า..พูด..ซะที...อื้อ”

                “ใจร้อนจัง” เสียงทุ้มเอ่ยแซวพร้อมเด้งสะโพกเข้าหาแรงๆจนคนตัวขาวครางลั่น

                “อ๊า!...มินกยู!” เสียงทุ้มหวานเอ่ยเสียงขุ่นจนคนโดนเรียกต้องเปลี่ยนมาควงสะโพกสอบให้อีกคนใจเย็นลง

                “อืม...ผมแค่อยากรู้”

                “.....”

                “ว่าผิวของพี่...นมกล่องนั้น..” ปากหนาขยับพูดไปพร้อมกับหยิบกล่องนมที่คว่ำจนนมหกอยู่บนโต๊ะจากแรงกระแทกกระทั้นของเขาขึ้นมาและค้นพบว่ามันพอจะมีเหลืออยู่บ้าง มือแกร่งเทนมส่วนที่เหลือลงบนหลังขาวเนียนที่แทบจะแยกไม่ว่าอันไหนสีผิวอันสีนมถ้านมไม่มีสถานะเป็นของเหลว

                “อ่ะ...อือ...” เสียงทุ้มหวานครางเครือเมื่อเอวสอบหยุดควงสะโพกแล้วเปลี่ยนกลับไปส่งแรงกระแทกเข้าหาเขาแทน

                “หรือนมของผม....”

                “อ่ะ...อ๊า...อ๊ะ..อ๊ะ..อื้อ..มิน..กยู” กายขาวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกที่รัวเร็วขึ้น เสียงทุ้มหวานหวีดลั่นไปพร้อมๆกับมือขาวที่บีบขอบโต๊ะจนขึ้นข้อ ความอึดอัดที่ด้านหน้าบ่งบอกว่าอีกไม่นานเขาจะแตะขอบสวรรค์นั้นส่งผลให้ช่องทางด้านหลังบีบตัวจนร่างสูงสูดปากสูดคอ ตากล้องหนุ่มเร่งสะโพกอย่างเสียสติให้กับความรัดแน่นของคนตรงหน้า

                “...อะไรมันจะขาวกว่ากัน” ประโยคพูดจบลงพร้อมกับแรงกระแทกครั้งสุดท้ายและการปลดปล่อยของคนทั้งคู่ ใบหน้าหล่อหวานฟุบลงกับแขนหอบหายใจจนตัวโยนก่อนจะครางฮือเพราะความอุ่นวาบเข้าที่ถูกฉีดพ่นเข้ามาในช่องทางเพียงเสี้ยววินาทีก่อนมันจะถูกดึงออกไป สัมผัสอุ่นร้อนกระทบเข้ากับแผ่นหลังขาวเนียนที่เลอะคราบนมกล่อง มือแกร่งรีดส่วนที่คั่งค้างออกมาจนหมดแล้วโน้มตัวลงไปกดจูบที่หลังคอขาวจนใบหน้าหล่อหวานขึ้นสีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มพร่ากระซิบที่ข้างหู

                “ขาวจนแยกไม่ออก...”

                “........”

                “จนอยากกินอีกรอบซะแล้วสิครับ”



            และดูเหมือนว่านอกจากตากล้องคิมจะไม่ได้นอนแล้วนั้น

.

.

.

.



อาจารย์ชเวก็คงต้องเข้าสอนสายซะแล้วล่ะ








*กลับไปเม้นกันด้วยน้า

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

(CUT) POOL SIDE - SOONHOON


CUT

                การเล่นน้ำของจีฮุนนั้นไม่ใช่การแข่งว่ายน้ำหรือสาดน้ำใส่กันใสๆเหมือนเด็กน้อยเล่นกัน ซูนยองนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายครึ้มอกครึ้มใจอะไรวันนี้ถึงรุกเขาแรงขนาดนี้ ร่างสองร่างที่ดำดิ่งอยู่ใต้ผืนน้ำ ริมฝีปากประกบกันแลกลมหายใจ ตาคมเฉี่ยวลืมตามองใบหน้ากึ่งหวานในระยะใกล้โดยที่ร่างเล็กนั้นลืมตามองอยู่ก่อนแล้ว มือทั้งสองสอดประสานกันแนบแน่นและปล่อยกายปล่อยใจไปกับรสจูบ ไม่มีการพยายามทรงตัวใต้น้ำแต่อย่างใด ทั้งสองปล่อยให้ร่างกายลอยตัวจนขึ้นมาเหนือน้ำ กลีบปากผละออกจากกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเป็นซูนยองที่ดันจีฮุนชิดขอบสระ สองแขนกักขังร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดแล้วกดจูบลงไปอีกหน ริมฝีปากสองคู่บดคลึงกันและกันจนบวมช้ำแต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสนใจของคนทั้งสอง
  
              จีฮุนอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเคลิ้มผลักอกแกร่งนั้นออกก่อนจะว่ายหนีไปที่ขั้นบันได ซูนยองมองตาม ใจคิดจะตามไปอย่างไม่รีบร้อนแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจกระทันหัน เพราะร่างเล็กนั้นนึกพิเรนทร์ถอดกางเกงว่ายน้ำแล้วเขวี้ยงไปกองไว้กับเสื้อที่ขอบสระ ร่างโปร่งแทบติดสปีดว่ายสี่คูณร้อยเมตรเพื่อมาบดบังร่างกายเปลือยเปล่าของอีกคน

                “ทำบ้าอะไรน่ะฮะ!?” เสียงทุ้มขึ้นเสียง คนตัวเล็กยิ้มเผล่ก่อนจะยกเข่าขึ้นมาสีที่กลางลำตัวของอีกคน

                “ดึกแล้วหน่า ไม่มีใครซะหน่อย”

                “นี่มันสระกลางแจ้งนะ”

                “เลิกบ่นได้ไหมอ่ะ ถ้าร้องเพลงเก่งเหมือนบ่นมันคงดีมากเลยนะคุณควอน” ปากเล็กๆขยับบ่นไปตามเรื่องช่างขัดกับช่วงล่างที่สีกลางลำตัวร่างโปร่งจนเริ่มโป่งนูน ซูนยองถอนหายใจอย่างยอมแพ้


                เออ งั้นเขาก็ขอไม่สนสถานที่แล้วก็แล้วกัน


            ใบหน้าหล่อตี๋โน้มลงไปซุกที่ซอกคอขาวขบเม้มแต่พองามเพื่อไม่ให้ขึ้นรอย ลิ้นร้อนลากไล้ไปทั่วจนมาถึงเนินไหล่ มืออยู่ไม่สุขเมื่อมันเอื้อมไปคว้าตัวตนของร่างเล็กขึ้นมารั้งรูดในจังหวะเดียวกันที่มือเล็กสอดล้วงเข้ามาใต้กางเกง สีหน้ากระเง้ากระงอดจากคนบ่นหายไปพร้อมกับความวาบหวามที่ฉายชัดบ่นใบหน้าหล่อหวาน เสียงร้องดังครางเครือไปกับสัมผัสร้อนใต้ผิวน้ำ

                “ซูน...อื้อ..” เสียงทุ้มหวานครางเมื่อมือหนาค่อยๆลูบไปตามต้นขาด้านในจนปลายนิ้วไปแตะที่ช่องทางสีอ่อน มืออีกข้างยกขึ้นมาบดคลึงจุดอ่อนไหวเล็กๆบนอกสร้างความกระสันให้ร่างบางไปพร้อมๆกับนิ้วแกร่งที่ไล้วนที่ปากทางค่อยๆกดนิ้วเข้าไปจนร่างเล็กหายใจขาดห้วง

                “อ่ะอื้อ..ฮะ..ซูน” สีหน้าเร้าอารมณ์มองร่างโปร่งส่งผลให้ซูนยองหายใจติดขัด แต่เบื้องล่างไม่เป็นเช่นนั้นเพราะน้ำในสระช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้น นิ้วแกร่งขยับเข้าออกจนช่องทางค่อยๆปรับสภาพให้คุ้นชินจนใส่นิ้วเข้าไปได้ครบสามนิ้ว ร่างโปร่งกระแทกนิ้วเข้าออกสลับหมุนควงให้สะโพกอวบส่ายร่อนอย่างเสียวซ่าน กายขาวเริ่มแดงกล่ำเพราะแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ แกนกายเล็กสั่นระริกจนน้ำเมือกใสปริ่มออกมาจากส่วนปลายและในจังหวะนั้นเองที่นิ้วแกร่งทั้งถูกดึงออกไป ตาเรียวเล็กมองค้อนอย่างไม่พอใจทำให้รอยยิ้มร้ายจากร่างโปร่งกลับมาอีกครั้ง

                “ไหนเด็กน้อยอ้อนฉันหน่อยซิ” เสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้า

                “.....”

                “เหมือนที่ห้องอัดไง” แล้วยักคิ้วให้อย่างกวนบาทา จีฮุนนิ่วหน้าอย่างขัดใจและผลักอกแกร่งออก ร่างบางผุดลุกออกจากสระไปนั่งที่ปลายเตียงอาบแดด รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อหวาน ซึ่งดูแล้วศึกครั้งนี้ซูนยองจะไม่ชนะอย่างแน่นอน

                ดวงตาเรียวรีจ้องร่างโปร่งที่ยังคงอยู่ริมขอบสระอย่างมีความหมาย มือเล็กลูบไปตามหน้าขาที่แยกออกจากกันจนเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดเจน นิ้วเรียวไล้มาที่ปากทางสีอ่อนก่อนจะส่งนิ้วเข้าไปพรวดเดียวถึงสามนิ้ว ฟันคมขบริมฝีปากระบายความปวดตุบก่อนจะขยับนิ้วเข้าออกต่อหน้าสายตาคมเฉี่ยวที่มองมา

                “อื้อ..อ๊ะ..ซูน..”

                “....”

                “อา..อ่ะ...ดี..ดีจัง” เสียงทุ้มหวานครางพร่า สายตาร้อนแรงจ้องมองมาจนร่างโปร่งหมดความอดทน ซูนยองเดินขึ้นฝั่งและไปหยุดยืนตรงหน้าร่างเล็ก มือแกร่งเชยคางมนขึ้นแล้วโน้มตัวลงไปประกบจูบดูดดื่มแล้วผละออก

                “ฉันคงต้องขอร้องนายแล้วล่ะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากแล้วผละออกไป จีฮุนยกยิ้มก่อนจะนั่งหลังตรงให้ใบหน้าอยู่เสมอกับตัวตนของอีกฝ่าย มือเล็กเกี่ยวขอบกางเกงทั้งนอกและในลง ลูกรักของอีกคนผงกหัวรับทันทีเมื่อได้ออกมาสูดอากาศด้านนอก รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นและหายไปเมื่อกลีบปากนุ่มโอบอุ้มท่อนเอ็นแข็งชันเข้าเต็มปาก ฟันคมครูดไปตามแนวยาวสลับตวัดลิ้นโลมเลียจนร่างโปร่งซี๊ดปาก มือแกร่งวางบนศีรษะทุยลูบไปมาราวกับชมเชย แรงรั้งรูดแรงขึ้นเรื่อยๆไปตามเสียงทุ้มที่เรียกชื่อตน จนเขาคิดว่ามันน่าจะพร้อมเต็มที่แล้วจึงถอนปากออกมา กายเล็กถดกลับไปนั่งที่กลางเตียงแล้วพลิกตัวหันหลังให้ในท่าคลานเข่า สะโพกกลมกลึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้าพร้อมกับมือเล็กที่แหวกแก้มก้นจนเห็นช่องทางที่ขมิบเรียกร้องอะไรที่มากกว่านิ้ว ร่างโปร่งนึกขอบคุณร่มผ้าใบที่กางไว้เหนือเตียง อย่างน้อยคนชั้นบนมองลงมาคงไม่เห็นแน่นอน เพราะภาพแบบนี้ควรมีแค่เขาล่ะที่ได้เห็นแค่คนเดียว


                เพี้ยะ!

                “อื้อ!...” เสียงทุ้มหวานครางเครือกับฝ่ามือที่ฟาดลงที่สะโพกอย่างหมั่นเขี้ยว ร่างโปร่งเคลื่อนกายขึ้นไปซ้อนด้านหลัง มือแกร่งกดบั้นเอวอีกฝ่ายอีกนิดแล้วจับลูกรักเข้าสำรวจช่องทางคับแน่น

                “ซี๊ด..” ร่างโปร่งสูดปากสูดคอไปกับแรงบีบรัดที่ทำให้เขารู้สึกกระสัน ขยับกายเข้าออกเบาๆกระตุ้นร่างเล็กที่สั่นเทาไปด้วยแรงอารมณ์

                “อา...ซูน...” เสียงหวานครางเพ้อ สะโพกส่ายร่อนไปมาร้องหาแรงกระแทกจากคนด้านหลัง ซูนยองเห็นอย่างนั้นจึงกระแทกกายเข้าหาอย่างไม่เก็บกลั้นอีกต่อไป

                “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ..ซะ...ซูน” ร่างเล็กครางกระท่อนกระแท่นไปตามจังหวะกระแทกของใครอีกคน สะโพกอวบกระแทกสวนกลับไปด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นไป

                “อื้ม...ฮุน..” ร่างโปร่งครางต่ำกับแรงกระแทกที่สวนกลับมายิ่งทำให้แกนกายเข้าไปได้ลึกจนขยี้จุดอ่อนไหวภายในจนร่างเล็กครางสุดเสียง 

                “อ๊า!!.. ซะ...ซูน...อื้อ” ช่องทางขมิบรัดท่อนเอ็นที่กระแทกเข้ามาถี่รัวเพื่อเอาใจ ใบหน้าขาวแดงเรื่อเม็ดเหงื่อซึมผุดจนไหลมาถึงคาง จีฮุนเอี้ยวหน้าหันมามองอีกคนที่สีหน้าตอนนี้เขาอยากจะเก็บมันไว้ดูคนเดียว

                เซ็กซี่เป็นบ้า

            สายตาร้อนแรงที่จ้องมองมาทำให้ร่างเล็กรู้สึกร้อนขึ้นทวีคูณ กายบางถดหนีจนท่อนเอ็นหลุดออกจากช่องทางแล้วพลิกตัวเอนหลังลงแนบกับฟูกนิ่ม ขาเรียวข้างหนึ่งตั้งฉากกับฟูกโดยที่อีกข้างนั้นเหยียดออกไปสีที่ข้างเอวสอบอย่างเชื้อเชิญ ซูนยองกระตุกยิ้มแล้วโน้มกายลง มือแกร่งจับลูกรักแทรกเข้าช่องทางอีกหนจนสุดทาง จีฮุนซี๊ดปากแล้วโน้มคออีกคนลงมา

                “มองแบบนี้คิดอะไรอยู่ล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ยอมขยับตัว ขาเรียวเกี่ยวเข้ากับเอวสอบแล้วยกยิ้ม

                “คิดว่าเมื่อไหร่จะกระแทกซักที” คำพูดลามกหลุดออกมาจากปากอิ่ม คิ้วเข้มยกขึ้นสูงแสร้งทำเป็นแปลกใจก่อนโถมกายเข้าหาอย่างไม่ห่วงว่าเอวจะเคล็ด เสียงครางอื้ออึ้งดังก้องบริเวณ มือเล็กลูบไปตามสันกรามตาเรียวรีจ้องตาคมเฉี่ยวในระยะประชิดอย่างหลงใหล และสายตาตอนที่อีกฝ่ายมองมาทำให้ซูนยองต้องก้มหน้าไปประกบจูบ

                “อื้ม...” เสียงทุ้มหวานครางอู้อี้ กลีบปากอิ่มขยับจูบตอบไปพร้อมๆกับขมิบช่องทางรัดอีกฝ่าย บทจูบยาวนานถูกถอนออกไปแต่มิวายกลีบปากสองคู่ก็ยังคลอเคลียกัน
                “อ่ะ..นี่” จีฮุนเอ่ยเรียกพร้อมช้อนสายตามองร่างโปร่ง

                “ว่า..”

                “จริง..ๆ..ละ..อ๊ะ..แล้ว”

                “...”

                “ฉัน...ไม่..อ่ะ..ได้อยาก..อื้อ..เล่นน้ำในสระ...อ่ะ...หรอก”

                “..อ่า..แล้ว?” ซูนยองถามเสียงพร่าเมื่อกามอารมณ์พุ่งสูงจนหูตาพร่าเบลอ เอวสอบกระแทกเข้าหาสะโพกกลมกลึงไม่ลืมหูลืมตาจนช่องทางบีบรัดหนักหน่วงและปลดปล่อยสายน้ำอุ่นเข้าช่องทางแคบ ความอุ่นวาบแล่นปราดไปถึงท้องน้อยทำให้ร่างเล็กปลดปล่อยโดยไม่ต้องพึ่งมืออีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ จีฮุนหอยหายใจในจังหวะเดียวกันกับคนด้านบน ซูนยองค่อยๆถอนกายร้อนออกแต่ก็โดนอีกฝ่ายขมิบรั้งเอาไว้

                “เดี๋ยว...”

                “.....?”

                “ที่ว่าอยากเล่นน้ำน่ะ...”

                “....”

                “..หมายถึงอยากเล่นน้ำในตัวฉันตอนนี้ต่างหาก”




                เอาล่ะ ซูนยองตัดสินใจแล้วว่าจะเล่นน้ำกับจีฮุนจนฟ้าเหลืองเลยแล้วกัน


  


               ป.ล. กลับไปเม้นกันด้วยน้า

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

(CUT) FLOOR CHECKED - SOONHOON



CUT




                “ซูนยอง..” เสียงทุ้มหวานหลุดอุทานเมื่อเอี้ยวหน้าหันไปมองเจ้าของสัมผัสก็พบกับใบหน้าหล่อร้ายเข้าอย่างจัง

                “เห็นหมดแล้วใช่ไหม”

                “.....”

               “...ที่ซ้อมน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยที่ริมฝีปากอยู่ข้างหู

                “อ่ะ..อืม” ไม่รู้ว่าเป็นการตอบรับหรือครางกันแน่เพราะสัมผัสนุ่มนิ่มลากไล้ไปทั่วหลังคอ มือหนาที่เคยจับก็เริ่มลูบไปตามต้นแขนลามไปยังช่วงเอว

                “นอกจากเพิร์ฟทีมแล้วยังไม่ให้ใครดูเลยนะ” เสียงทุ้มที่ดังชัดกับสัมผัสร้อนที่หลังหูนั้นทำให้ขนอ่อนลุกชัน กายเล็กเริ่มสั่นน้อยๆเนื่องจากอารมณ์ที่เกือบจะหายไปโหมกลับมาอีกครั้ง

                “ซะ..ซูน” เสียงทุ้มหวานครางแผ่วเมื่อมือหนาล้วงเข้ามาใต้เสื้อ ปลายนิ้วไล้วนอยู่รอบแอ่งสะดือ ลมหายใจขาดห้วงจากความสะท้านนั้นทำให้ร่างโปร่งลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืด สีหน้าท่าทางของจีฮุนตอนนี้ช่างต่างกับจีฮุนในเวลาปกติ และมันก็น่าหลงใหลมากกว่าตอนคนตัวเล็กนี่ตั้งใจทำงานเสียอีก


                “หืม..” เสียงทุ้มแกล้งขานรับในลำคอลิ้นร้อนเริ่มบรรจงลิ้มรสชาติจากร่างกายขาว เริ่มตั้งแต่หลังหู ท้ายทอยจนมาถึงไหล่เล็ก

                “อ่ะ..ซูน..” หน้าหวานแดงปลั่ง ทั้งเขินอายทั้งรู้สึกเสียววูบจากความร้อนที่ชื้นแฉะบนไหล่ของตัวเอง แต่หากจะให้เขาผลักไสอีกคนออกไปในเวลาแบบนี้เขาก็ไม่มีแรงมากพอ และซูนยองเองก็รู้ว่าเขากำลัง ... ต้องการ

            “.....” ในความเงียบของควอนซูนยองนั้นก็มีสายตาที่ส่งให้คนตัวเล็กที่แสดงความต้องการของตัวเองอย่างปิดไม่มิด ตาคมเฉี่ยวมองเสื้อเชิ้ตที่ปกปิดผิวกายนั้นราวกับจะกระชากมันออกแต่ที่จริงเขาไม่แม้จะขยับกายเสียด้วยซ้ำ มือเล็กที่ติดจะสั่นเทาถูกยกขึ้นมาแกะกระดุมทีละเม็ด ทีละเม็ด จนสาบเสื้อแยกออกจากกันและรอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏขึ้น

                “เด็กดี” เสียงทุ้มเอ่ยชมแล้วทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าคนตัวเล็ก ริมฝีปากร้อนกดจูบไปทั่วหน้าท้องบาง ลากลิ้นขึ้นไปยังจุดอ่อนไหวเล็กๆนั้นแล้วขบเม้มดูดดุนจนอกบางต้องแอ่นเข้าหาสัมผัสให้มากขึ้น

                “อ้ะ..ซะ..ซูน” เสียงหวานกระเส่านั้นฟังแล้วช่างรื่นหูส่งผลให้ร่างโปร่งตวัดลิ้นหยอกล้อให้หนักมากขึ้นไปอีก แม้จะรู้สึกดีแต่ก็รู้สึกอึดอัดเพราะร่างโปร่งเอาแต่หยอกล้อส่วนอื่นไปทั่วแต่ไม่ยอมแตะส่วนที่นั้นของเขาเสียที

                “ซูน...” เสียงทุ้มหวานเอ่ยเรียกเสียงสั่น

                “หืม” เจ้าของชื่อขานรับก่อนจะเงยหน้ามาสบตาคนด้านบนแล้วก็ต้องใจกระตุก เพราะสีหน้าอีจีฮุนนั้นน่าปู้ยี้ปู้ยำให้แหลกคามือเสียจริงๆ สายตาหวานเชื่อมเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสบวกกับแก้มแดงๆนั่นยิ่งทำให้ช่วงล่างของซูนยองปวดหนึบไปหมด

                “..อึดอัด” เสียงหวานเอ่ยว่าพลางส่งสายตายังไปที่เกิดเหตุ ท่าทางแสนยั่วที่คนตัวเล็กไม่รู้ตัวสักนิดนั้นกระตุ้นอารมณ์ดิบของซูนยองได้เป็นอย่างดี ตาคมเฉี่ยวมองตามก่อนจะพบเจอความโป่งนูนที่เป้ากางเกง ร่างโปร่งยกยิ้มแล้วแกะกระดุมพร้อมทั้งรูดซิบและจัดการอาภรณ์ช่วงให้หายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว

                “แล้วยังไงต่อล่ะ” ร่างโปร่งแกล้งกระเซ้า ร่างเล็กเม้มปากอย่างนึกโมโหในสถานะความเป็นรองของตัวเอง

                “ชะ..ช่วยฮุนนะ..นะซูน” เสียงหวานเอ่ยอ้อนแล้วก็หันหน้าหนีไม่กล้าสบตาคนเบื้องล่างเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอีกคนได้เป็นอย่างดี แต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่นาน

                “Let’s check the floor baby

                ร่างเล็กถูกดึงลงจากเก้าอี้จนร่วงลงมาอยู่บนตักแกร่งก่อนจะถูกจับพลิกให้นอนราบอยู่บนพื้น สองแขนแข็งแรงถอดเสื้อตัวเองออกอย่างรวดเร็วและโน้มใบหน้าลงจนใกล้กับส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริก ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วราวกับปลอบโยนก่อนจะโอบอุ้มท่อนเอ็นนั้นจนสุดความยาว เสียงหวานครางอื้ออึ้งส่งผลให้ร่างโปร่งขยับปากขึ้นลงเร็วขึ้นเพื่อลดความอึดอัดให้คนตัวเล็ก เล็บบางจิกข่วนไปทั่วพื้นจนเกิดเสียงแข่งกับเสียงร้องของตัวเองจนถึงเฮือกสุดท้าย เสียงร้องแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงและร่องรอยที่ปรากฏที่มุมปากและฝ่ามือแกร่ง ซูนยองป้ายของเหลวสีขุ่นที่ช่องทางสีอ่อน ใช้นิ้วกดคลึงจนส่วนอ่อนไหวด้านหน้ากลับมาตั้งชันอีกรอบ ดวงตาหวานเยิ้มมองการกระทำนั้นที่หว่างขาตัวเองได้ไม่นานก็ต้องยกมือขึ้นมาขบกัดระบายความเสียวของตัวเอง ริมฝีปากเล็กร้องไม่มีเสียงเมื่อก้านนิ้วเรียวเริ่มแทรกเข้าในช่องทางร้อน

                “คนดีไม่เกร็งนะ” เสียงทุ้มปลอบโยนก่อนจะส่งลิ้นทักทายที่รอยจีบสร้างความกระสันให้คนตัวเล็กจนช่องตอดรับถี่รัว

                “อ๊ะ..ฮื่อ..ซูน” เสียงหวานครางอย่างไร้สติเมื่อก้านนิ้วสัมผัสโดนจุดกระสัน ซูนยองเห็นดังนั้นจึงกดย้ำๆ

                “อ๊ะ..อะ...ซะ..ซูน...อื้อ..เสียวว..” ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังเคลิ้มนิ้วเรียวนิ้วที่สองและสามก็ถูกส่งเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกันพร้อมขยับเข้าออกบดขยี้จุดศูนย์รวมความรู้สึกจนกายบางเกร็งไปทุกสัดส่วน ฟันคมงับข้อนิ้วตัวเองจนเกิดรอยฟัน ในจังหวะที่อารมณ์กำลังไต่ขึ้นสูงร่างโปร่งก็ถอนนิ้วออกมา มือแกร่งดึงกางเกงของตัวเองลงมาถึงแค่หน้าขา จัดการรั้งรูดลูกชายจนแข็งขืนท่ามกลางสายตาของคนตัวเล็กที่มองมา

                “พร้อมหรือยังคนดี” เสียงทุ้มถามเสียงกระเซ้าพลางจับลูกรักให้ปลายมนถูไปมาอยู่ที่ปากทางที่กำลังขมิบเข้าหากันอย่างต้องการการเติมเต็ม

                “อะ..ซะทีเถอะน่า” จีฮุนพูดเสียงขุ่น เขากำลังจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าบ้านี่ยังจะมาแกล้งเขาอีก

                “ใจร้อนจังนะตัวแค่นี้”

                “ไอ้บะ..บ้า..อ๊ะ!” ยังไม่เอ่ยว่าอีกคนได้เต็มเสียงนักร่างโปร่งก็แทรกกายเข้าจนสุดในคราวเดียว ซูนยองซี๊ดปากให้กับความคับแน่นและแรงตอดรัดจากคนตัวเล็ก ร่างโปร่งแช่กายไว้อย่างนั้นจนรู้สึกว่าอะไรๆก็เข้าที่จึงเริ่มกระแทกสะโพกเข้าหาช่องทางร้อนในจังหวะเนิบช้า

                “นี่...จีฮุน...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกขณะที่สวนสะโพกเข้าออกมองคนตัวเล็กที่ไม่ยอมมองหน้าเขา

                “.....”

                “นี่...”

                “....”

                “ย๊า!

                “อ๊ะ!” ไม่เรียกเปล่ากลับกระแทกกายเข้าหาจนกระทบจุดกระสันเข้าเต็มแรง จีฮุนมองตาขวางแม้หน้าจะยังแดงเรื่อด้วย
แรงอารมณ์ก็ตาม

                “งอนอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมา คนตัวเล็กยังคงเงียบแม้จะได้ยินเสียงครางผะแผ่วเพราะเขายังขยับกายอยู่ก็เถอะ หรือว่า ...

                “อื้อ!..” เสียงอู้อี้ดังขึ้นเมื่อร่างโปร่งโน้มตัวลงประกบปากคนตัวเล็กและผลที่ได้ที่การขัดขืน

                ชัดเจน

            บางทีซูนยองนั้นก็คิดว่าจีฮุนน่ะน่าเอ็นดูชะมัด แค่เพียงเขาไม่ยอมจูบก็งอนและยิ่งในช่วงเวลาที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะแบบนี้ก็ยังมีกะใจมางอนเขาอีก สุดจะอารมณ์ศิลปิน

                ซูนยองลอบขำก่อนจะหยุดการกระทำทั้งหมดไว้เพียงแค่นั้น แขนแกร่งรั้งคนตัวเล็กขึ้นและจับสลับโพสิชั่นให้ร่างเล็กคร่อมตักโดยที่แกนกายเขายังคงเชื่อมติดกัน และท่วงท่าแบบนี้นั้นยิ่งทำให้แกนกายเข้าไปได้ลึกขึ้นจนร่างเล็กเผลอคราง

                “คนดีงอนอะไรครับหื้ม” ซูนยองเอ่ยถามคนบนตักอีกครั้ง มือแกร่งยกขึ้นมากุมแก้มแดงเรื่อน่าทะนุถนอมโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมพูด

                “.....”

                “ถ้าไม่ยอมพูด...”

                “.....”

                “ก็ใส่แรงลงมาเท่าความงอนที่มีแล้วกัน” ซูนยองยิ้มทะเล้นอย่างหยอกล้อและก็ต้องเปลี่ยนเป็นนิ่วหน้าด้วยความเสียว เพราะคนตัวเล็กขย่มกายลงสุดแรงและจังหวะที่รัวเร็วนั้นซูนยองถึงกับครางในลำคอ สองแขนเล็กโอบรอบคอแกร่งใบหน้ากึ่งหล่อกึ่ง
หวานซุกซบเข้าที่ซอกคอของอีกคนเพื่อซ่อนสีหน้าอันแสนจะแปรปรวน และในมุมนี้ซูนยองนั้นแทบจะหยุดหายใจ คุณคิดดูเอาเถอะผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆกับเสื้อเชื้ตสีดำที่ตกไหล่ไปกองอยู่ที่สะโพกอวบแบบนั้นแล้วกำลังขึ้นให้คุณอยู่น่ะมันสุดยอดขนาดไหน

                “อ่ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อื้อ” เสียงหวานที่ครางข้างหูซูนยองทำให้เขาทนไม่ไหวต้องดันอีกฝ่ายออกก่อนจะจับท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาประกบจูบ ครั้งนี้จีฮุนไม่ขัดขืนทั้งยังบดคลึงริมฝีปากกลับอย่างโหยหา เกลียวลิ้นที่กระหวัดตอบโต้กันและกลีบปากนุ่มหยุ่นบดขยี้จนบวมแดง ทั้งสองผละออกจากกันเพียงไม่นานก็สานต่อรสจูบนั้นอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด

                เพราะแบบนี้ไงจีฮุนถึงชอบจูบของซูนยอง

                “ฮื่อ..อือ..ซูน..” จีฮุนครางผะแผ่วชิดกลีบปากอิ่ม เจ้าของชื่อเห็นท่าทีอีกฝ่ายก็เอื้อมมือไปกอบกุมแกนกายของเจ้าตัวเล็กรั้งรูดเพื่อเร่งให้ถึงฝั่งฝัน ซูนยองขบกรามแน่นเมื่อจีฮุนระเบิดอารมณ์ใส่เขาอย่างรุนแรง เมื่อกามอารมณ์ไต่ขึ้นไปถึงจุดขีดสุด ช่องทางบีบรัดจนเขาปลดปล่อยไปพร้อมๆกับที่คนตัวเล็กที่ฉีดพ่นน้ำรักออกมาจนเต็มมือ


                “เก่ง..เก่งมากคนดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วแล้วจูบขมับคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยนโดยที่จีฮุนนั้นได้แต่ซุกซอกคอหอบหายใจเพียงเท่านั้น



        ปล. กลับไปคอมเม้นกันด้วยน้า