วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

(CUT) WASH IT - WONSOON






มือขาวเอื้อมไปปัดสายยางออกไปให้พ้นทาง วอนอูไม่ปฏิเสธมันแม้แต่น้อยแถมยังลอบยิ้ม เมื่อสีหน้าเหนื่อยและหงุดหงิดนั่นดูจะจางหายไปแล้ว ดวงตาแวววาวคล้ายกับลูกแก้วกำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเขา ซึ่งเขารับรู้ได้มันอย่างดี


ราวกับแม่เหล็กที่ต่างขั้ว คนสองคนโน้มเข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติ แขนนุ่มนิ่มโอบรอบคอแกร่งได้เหมาะเจาะ พร้อมริมฝีปากสองคู่ที่แนบชิดติดกัน บดคลึงกันอย่างร้อนแรงตามอารมณ์ที่เริ่มไต่ขึ้นสูง เล็บบางจิกลงที่หลังคอเมื่อปลายลิ้นเรียวสอดแทรกและตักตวงความกลมกล่อมของรสจูบอย่างตะกละตะกลาม ร้อนแรงจนแทบลืมหายใจจนต้องตีเข้าที่ไหล่อีกฝ่ายเมื่อรู้สึกเหมือนจะหมดลม


“แฮ่ก..” ซูนยองหอบครางเมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ ปากกระจับแวววาวด้วยน้ำเคลือบใส พวงแก้มขึ้นสีเรื่อยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบของคนมองให้รุนแรงขึ้นอีก


วอนอูเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เขาลากกลีบปากผ่านพวงแก้มนิ่ม แผ่วเบาเสียจนรู้สึกตัวลอย ก่อนจะต้องหลุดเสียงครางเมื่อมันหยุดแวะที่ซอกคอหอม ขบดูดมันอย่างดุดันขัดกับฝ่ามือหยาบที่เริ่มบีบคลึงไปทั่วร่างด้วยความอ่อนโยน


“อื้อ” ซูนยองคราวแผ่วราวกับเพ้อ เสียงกระเส่าดังอยู่ไม่ไกลจากใบหูวอนอูเท่าใดนักยิ่งทำให้เสียงขบดูดดังขึ้น และผลลัพธ์ของมันคือรอยแดงจ้ำเมื่อกลีบปากเรียวถูกทอดถอนออกไป


วอนอูเลื่อนมือไปปลดกางเกงผ้ายืดของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ โดยที่เจ้าของกางเกงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาหันไปหย่อนอาภรณ์ส่วนล่างใส่กะละมัง ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรลอยข้ามหัวของเขาไป และพบว่ามันคือเสื้อที่ซูนยองเคยสวมเอาไว้



ขาวน่าสัมผัสไปทั้งตัว


เส้นสติของวอนอูเหมือนถูกตัดออกไปอีกเส้น เขาดึงรั้งให้อีกฝ่ายลุกขึ้นก่อนจะดันให้แผ่นหลังขาวเนียนแนบชิดไปกับกำแพง สองแขนนิ่มที่โอบรอบเอวสอบแลดูเหมือนกอด แต่เปล่า เพราะสิ่งที่อยู่ในอาณัติของสองมือนั้นคือชายเสื้อยืดตัวโปรดของอีกฝ่าย ซูนยองเลิกเสื้อวอนอูขึ้นโดยคนถูกกระทำมีท่าทีขัดขืน


“แฟร์หน่อยดิ” ซูนยองพูดโดยที่วอนอูโคลงศีรษะไปมา แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายถอดเสื้อออกไปและซูนยองก็จู่โจมเขาทันที ปากกระจับขบเม้มลงที่อกกว้าง ดูดดุนอย่างดุดันกว่าที่วอนอูทำกับตน ฟันคมฝังลงบนผิวเนื้อ ขบ กัด จนวอนอูรู้สึกเจ็บจี๊ด


หงุดหงิด


ถึงจะไม่มากแต่ก็ยังรู้สึก เมื่อรู้ว่ารอยจาง ๆ ที่มันขึ้นมาก่อนหน้าไม่ได้มาจากเขา ซูนยองรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่สามารถเรียกร้องสิทธิ์อะไรได้และเขาก็ไม่ได้หึง แต่ถ้าบอกว่าหวงก็คงใช่ ในเมื่อพื้นที่บนร่างกายของวอนอูมันเป็นของเขา


“เฮ้ เบาหน่อย” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่ข้างหูไม่ได้ทำให้ซูนยองอ่อนลงหากอีกฝ่ายไม่บรรจงเม้มริมฝีปากลงบนกกหูของเขา จุดอ่อนที่วอนอูรู้ว่ามันสามารถสยบเขาได้และกลายเป็นว่าซูนยองจะต้องตกเป็นรองอีกครั้ง


ร่างนุ่มนิ่มอ่อนยวบระทดระทวยเมื่อเรียวลิ้นไล่เล็มที่ใบหูอย่างเอาใจ เสียงครางกระเส่าดังแผ่วแต่กลับก้องไปทั่วห้องน้ำ ฝ่ามือหยาบเลื่อนไปบีบคลึงจุดสำคัญผ่านอาภรณ์ตัวจิ๋วที่แทบจะหมดหน้าที่ในเมื่อมันไม่สามารถโอบอุ้มสิ่งที่อยู่ภายในได้จนมิด นิ้วเรียวยาวทำท่าจะเกี่ยวขอบชั้นในลงแต่มือนิ่มกลับเลื่อนมาตะปบอย่างทันท่วงที ซูนยองเล็มเลียสันกรามอีกคนอย่างยั่วยุสลับกดจูบแผ่วเบา ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าชิดติดกับสันกรามอีกคน


“เตียงเถอะนะ”


แม้วอนอูภายนอกอาจจะดูผอมแต่กลับแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ เขาโอบอุ้มซูนยองไว้โดยที่สองขาขาวเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์สบจ้องกันระหว่างทางที่ก้าวเดินไปยังเป้าหมาย ประตูสองบานที่ตั้งอยู่ข้างกันบ่งบอกถึงห้องนอนของเขาทั้งคู่ วอนอูทำท่าจะเดินไปยังบานประตูห้องของซูนยอง แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่เห็นด้วย ซูนยองโน้มหน้าลงกดจูบที่โหนกแก้มกร้าน ลากริมฝีปากลงไปถึงซอกคอ ขบดูดอย่างอ่อนหวานต่างกับในห้องน้ำอย่างชัดเจน


ซูนยองกำลังอ้อน

และวอนอูก็รู้ดีอีกเช่นกัน


เพราะผลคือแผ่นหลังขาวเนียนแนบลงบนผืนเตียงที่คลุมด้วยผ้าปูสีเข้ม กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของคนที่อยู่เหนือร่างเขาเตะจมูกเจือจาง กลิ่นกายวอนอูฟุ้งไปทุกอณูของผ้าปูเตียง แต่นั่นไม่ใช่จุดสนใจของซูนยองอีกแล้ว เมื่ออีกฝ่ายที่กำลังคร่อมทับเขาได้โน้มลงมาพรมจูบไปทั่วร่าง ริมฝีปากเรียวขบเม้มผิวเนื้อขาวเนียนไปทั่ว ฉับพลันที่ซูนยองจิกทึ้งกลุ่มผมหนา ก็ตอนที่ลิ้นร้อนตวัดเล็มเลียอยู่ที่ยอดอกสีอ่อน อกบางแอ่นเข้าหาอย่างมีอารมณ์ร่วม เสียงครางแผ่วกระเส่าเสียจนวอนอูตวัดลิ้นแรงขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรู้สึกดี


“ว..วอนอู” ซูนยองเพ้อหาชื่ออีกคนที่ตอนนี้ละความสนใจจากอกบางไปยังหน้าท้อง แวะเวียนหยอกล้อที่แอ่งสะดือก่อนจะละเลยส่วนสำคัญไป ริมฝีปากหยุดแวะที่ต้นขาด้านในเป็นที่ถัดมา ขบเม้ม ดูดดุนจนเริ่มขึ้นสีจาง วนอยู่เช่นนั้นสลับกันทั้งสองข้างจนขาขาวเริ่มสั่น ท่าทีกระสับกระส่ายปรากฏแก่สายตาเรียวคม วอนอูมองอย่างนึกสนุกเมื่อสีหน้าซูนยองกำลังบอกอย่างชัดเจนว่าอึดอัด


วอนอูยืดตัวขึ้นไปประจันหน้ากับคนใต้ร่าง มือเล็กเริ่มมีท่าทีซุกซนโดยการเลื่อนไปยังจุดสำคัญเพื่อคลายความอึดอัด มือกร้านคว้าไว้ได้ทันก่อนจะประสานมือไปตามร่องนิ้ว กักขังมือนิ่มไว้เหนือศีรษะของเจ้าตัว แววตาซูนยองสั่นระริก มันเต็มไปด้วยอารมณ์ อึดอัด เว้าวอน และนั่นมันยิ่งทำให้วอนอูสติเหลือน้อยลงทุกที


กลีบปากกลับมาประกบกันอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่คุขึ้นเรื่อย ๆ บทจูบรุนแรงจนปากทั้งคู่บวมช้ำ ผละออกเพื่อโกยลมหายใจก่อนจะกลับมาประสานกันใหม่อยู่อย่างนั้นจนสะโพกอวบอยู่ไม่ติดเตียง ความอึดอัดเบื้องล่างยิ่งทำให้ซูนยองคลั่ง เจ้าตัวแอ่นสะโพกเพื่อเสียดสีตัวตนไปกับร่างกายของคนด้านบน จนวอนอูต้องขยับสะโพกสีกับอวัยวะเดียวกันกับซูนยอง ความโป่งนูนใต้ร่มผ้าของเขานั้นเริ่มเล่นงานเขาบ้างแล้ว


ซูนยองสะบัดมือที่เกาะกุมกันทิ้ง เขาไม่สามารถอดทนไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ร่างขาวผุดลุกพลางดันให้อีกคนเป็นฝ่ายนอนราบไปกับผืนเตียง เพียงครู่เดียวอาภรณ์ตัวสุดท้ายที่แสนไร้ประโยชน์ก็ถูกปลดเปลื้องด้วยน้ำมือของผู้สวมใส่  ซูนยองปีนขึ้นเป็นคร่อมร่างสูงไว้ด้วยทิศทางที่แปลกไป ตรงหน้าของเขาเป็นสิ่งปูดนูนที่ดุนดันผ่านกางเกงผ้าร่ม เขาเกี่ยวขอบกางเกงทิ้งอย่างไม่ลังเลก่อนจะครอบครองสัดส่วนที่กำลังชี้หน้าเขาอย่างทันท่วงที


“อา..ซ...ยอง…” วอนอูคำรามเสียงต่ำ เขากัดฟันดังกึกเมื่อความเปียกแฉะที่แสนจะอุ่นกำลังครอบครองตัวตนของเขาอย่างบ้าคลั่ง เสียงเหนอะหนะดังลั่นห้องเมื่อส่วนปลายกระแทกกับลำคอของผู้กระทำอย่างรุนแรง


สุดท้ายนี้ เส้นสติของวอนอูก็ถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์ เบื้องหน้าของเขาคือสะโพกอวบที่ส่ายร่อนไปมาอย่างยั่วยุ กลีบปากอิ่มดูดนิ้วเรียวของตัวเองจนเกิดเสียง ก่อนจะดึงมันออกมาเพื่อไปสอดใส่ช่องทางที่ยั่วเย้าอยู่ตรงหน้า


“อึ้ก!..” ซูนยองกระตุกสั่น เมื่อเรียวนิ้วชำแรกเข้าไปยังร่องสะโพก สุดข้อนิ้วภายในคราวเดียว จังหวะการขยับปากของซูนยองสะดุดลงเมื่อปลายนิ้วหมุนควงจนสะโพกส่ายร่อนหนักกว่าเก่า


“อ๊า..ว..อื้อ..” ร่างเล็กยอมแพ้ เขาละออกจากจุดสำคัญที่กำลังโป่งพอง ร้องครางกับความเสียวซ่านที่ได้รับเมื่อคนใต้ร่างเพิ่มนิ้วเป็นสามนิ้วในทีเดียว กายขาวกระตุกเมื่อปลายนิ้วสะกิดโดนจุดกระสันเข้าอย่างจัง ฟันคมงับริมฝีปากอย่างอดกลั้น ความเสียวซ่านกำลังตีรวนในร่างกายจนทำให้เขาต้องการในสิ่งมากกว่า


วอนอูร้ายขนาดนี้

แล้วเขาจะไม่หวงคน ๆ นี้ได้ยังไง



ซูนยองสไลด์ตัวลงมาในจุดที่ต่ำกว่า ความวูบโหวงปรากฏชัดเมื่อนิ้วเรียวหลุดออกไป มือขาวคว้าสิ่งโป่งพองขึ้นมารั้งรูดรัวเร็วแค่ไม่กี่ครั้งก่อนจะยกสะโพกแล้วทิ้งตัวใส่แท่งร้อนในคราวเดียว


“อ๊า!” ซูนยองครางลั่น ในหัวขาวโพลนไปหมด ลืมการหยอกเอินช่องทางอย่างที่เคยทำ ลืมความค่อยเป็นค่อยไปเพราะมันไม่ทันใจเขาอีกแล้ว


“ซี๊ด..” วอนอูสุดปากสูดคอเมื่อเจ้าตัวเล็กขย่มกายขึ้นลงอย่างลืมตาย ถี่รัว รุนแรง กับช่องทางที่ตอดตุบบีบรัดกายของเขายิ่งทำให้วอนอูเสียสติไปกันใหญ่ และเขาก็คิดแล้วว่าแรงแค่นี้มันไม่เพียงพออีกต่อไป


“อ้ะ..อา..ว...อู..อึ้ก” ซูนยองหวีดครางลั่น เมื่อร่างสูงยันตัวขึ้นแล้วดันเขาให้อยู่ในท่าหมอบคลาน สองมือจับยึดที่สะโพกกลมกลึง ดึงรั้งให้อยู่ในองศาที่เหมาะสมแล้วถมกายใส่รุนแรง ทั้งรัว และเร็วกว่าที่เขาทำหลายเท่า


นิ้วเรียวกรีดไปตามไขสันหลัง ความเสียววูบเล่นงานจนซูนยองไม่สามารถพยุงตัวเองได้อีก ร่างขาวคว้าหมอนมาฝังใบหน้า ครางอู้อี้อยู่กับสิ่งนั้นพร้อมกับสองมือที่จิกทึ้งหมอนใบใหญ่อย่างหาที่ระบาย ช่องทางตอดตุบถี่รัวด้วยความรู้สึกดี


“อา..ซูนยอง..” ไม่รู้ว่าวอนอูโน้มตัวมาใกล้ตั้งแต่ตอนไหน เพราะตอนนี้เสียงครางทุ้ม ๆ มันดังที่ข้างหูของซูนยอง สัมผัสนุ่มหยุ่นที่คลอเคลียอยู่ที่กกหูยิ่งทำให้ซูนยองเตลิดไปไกลกว่าเดิม



ยิ่งวอนอูรู้จักร่างกายของซูนยองดีเท่าไหร่

มันก็ยิ่งยากที่ซูนยองจะอยู่เหนือวอนอูได้


“อา..อู...วอนอู…” ซูนยองครางเครือเรียกชื่ออีกฝ่าย มือขาวเลื่อนมากุมมือกร้านที่เพิ่งเลื่อนมากุมแก้มเขาเมื่อกี้นี้


“หื้ม?” เจ้าของชื่อขานรับ การให้ความสนใจกับบทสนทนาไม่ได้ทำให้แรงกระแทกนั้นลดน้อยลง

“จะ...อา...ถึง...อ๊ะ!” บอกถึงจุดประสงค์ของตัวเองไม่ทันเสร็จดีก็ต้องหลุดครางลั่น เมื่อร่างสูงจับตนเปลี่ยนท่าปุบปับ ความวูบโหวงเข้ามาทักทายกระทันหันพร้อมแผ่นหลังกลับมาแนบกับผืนเตียงอีกครั้ง เรียวขาขาวถูกจับแยกออกมาพาดบ่ากว้างทั้งสองข้าง สะโพกลอยไม่ติดเตียง มองจากมุมด้านล่างอย่างนี้ยิ่งเรียกเลือดให้กองบนหน้ามากขึ้นไปอีก


“จัดการสิ” เสียงทุ้มว่า กายแข็งขึงกลับเข้าร่องสะโพกอย่างใจเย็น ขยับเข้าออกหนักแน่นสลับสองมือที่บีบคลึงขาอ่อนด้านในอย่างระบายอารมณ์


“อา..อู...อื้อ...วอนอู…” แค่แววตาของร่างสูงที่มองมาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาจะมอดไหม้อยู่แล้วยังไม่เท่าความร้อนแรงที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ สายตาและการกระทำของวอนอูกำลังหลอมละลายซูนยองให้เหลวยิ่งกว่าขี้ผึ้งลนไฟ



แต่ถึงอย่างนั้น ฝ่ามือขาวที่สั่นระริกก็เอื้อมไปกอบกุมตัวตนของตัวเองไว้ ขยับรั้งรูดผ่อนคลายความอึดอัดที่ใกล้จะได้ปลดปล่อย สีหน้าแสนเย้ายวนรวมไปถึงการกระทำของซูนยองยิ่งส่งผลให้วอนอูเสือกไสร่างกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง


ดวงตาฉ่ำปรือ ฟันซี่เล็กงับกลีบปากล่าง และไหนจะมือที่ดูนุ่มนิ่มกำลังช่วยตัวเอง

ภาพจากด้านบนมันก็รัญจวนไม่ต่างกัน


“อื้อ..วอนอูอา...อึ้ก!” ซูนยองครางไม่ขาดปาก มือขาวขยับรั้งรูดตัวตนที่แข็งขืนจนถึงจุดขีดสุด ก่อนมันจะได้ปลดปล่อยออกมา ตาเรียวชี้หลับพริ้มกับแสงสว่างที่พานพบ ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อแรงกระแทกกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง


วอนอูกำลังจะตามมาในไม่ช้าแล้ว


“อ้ะ..อ๊า..อา” ครางอย่างกระสันซ่าน มือที่เลอะด้วยคราบน้ำปัดป่ายไปตามร่างกาย เร่งเร้า ยั่วยุให้คนมองมัวเมา

วอนอูปล่อยขาเรียวออกจากบ่า จับมันแยกกว้างแล้วถมกายใส่อย่างหน้ามืดตามัว เขาครางต่ำในลำคอจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน กัดฟันดังกึกอย่างสะกดกลั้นเมื่อร่องสะโพกบีบรัดเขาแน่นขึ้น และแน่นขึ้น


“อ๊า!/อา!” เสียงครางเฮือกสุดท้ายดังขึ้นพร้อมกับความอุ่นที่ถูกฉีดพ่นเข้ามาเต็มช่องทาง กลับกันที่ร่างสูงรู้สึกสบายตัวหลังจากได้ปลดปล่อย ใบหน้าหล่อคมโน้มลงซบกับไหล่ลาด กายแกร่งโน้มตามลงมาจนเนื้อแนบเนื้อ สะโพกสอบขยับเข้าออกมาเชื่องช้าเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่คั่งค้าง และหยุดลงเมื่อมันออกมาจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ถอนตัวออกไป


“วอนอู” ซูนยองเอ่ยเรียกปนเสียงหอบ อกขาวกระเพื่อมอย่างเหนื่อยอ่อน ปากกระจับงับเอาอากาศเข้าปอด สาบานเลยว่าแข่งไตรกีฬาเขายังไม่เหนื่อยเท่านี้


“อือ”


“ไม่เอาออกอะ?” ซูนยองท้วง เมื่อช่องทางยังคงถูกเติมเต็ม


“เดี๋ยวเลอะเตียง” วอนอูบอกเหตุผล กลีบปากอิ่มยังคงชมเชยหัวไหล่ขาวเนียนอยู่อย่างนั้น จนเสียงหอบของคนใต้ร่างเงียบไปเขาจึงผละออก


วอนอูสอดมือไปโอบแผ่นหลังเนียน รั้งให้อีกฝ่ายขยับขึ้นมานั่งทับตักของตัวเองเรียกเสียงครางแผ่วจากร่างขาวได้เป็นอย่างดี แต่ซูนยองก็รู้หน้าที่ตัวเองถึงได้เกี่ยวขาเข้ากับเอวสอบ


“เดี๋ยวพาไปล้าง” พูดจบก็ทำตามที่บอก สีหน้าวอนอูดูสบายเมื่อเทียบกับใบหน้าของซูนยองที่บิดเบี้ยวเมื่อจังหวะการก้าวเดินของวอนอูสะเทือนไปถึงเขาจนสั่นไปทั้งตัว



*มีต่อที่เด็กดีน้า